ความสำคัญของระบบ ERP ยุคดิจิทัล 4.0 สำหรับองค์กรในปัจจุบัน

เข้าใจเหตุผลที่องค์กรต้องการ ERP ในยุคดิจิทัล 4.0 พร้อมกับการพัฒนาของ Microsoft Dynamics 365, MES, Thingworx IIoT Platform และ IoT Platform สำหรับองค์กรที่ยกระดับความสำเร็จ
erp digital 4 0 1

ยุคดิจิทัลส่งผลกระทบต่อวิธีการดำเนินธุรกิจขององค์กรในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการจัดการและประสานงานภายในองค์กร การนำเสนอระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับความท้าทายและปรับตัวให้ทันสมัยได้ ดังนั้น มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลที่องค์กรต้องการระบบ ERP ในยุคดิจิทัล และความคืบหน้าของ ERP ในยุคที่ 4.0

เหตุผลที่องค์กรต้องการระบบ ERP ในยุคดิจิทัล

  • 1. ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการต่าง ๆ ดังนี้

    • การผลิต: ระบบ ERP สามารถปรับปรุงการวางแผนการผลิตและติดตามขั้นตอนการผลิตเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในกระบวนการและประหยัดทรัพยากร นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดการควบคุมคุณภาพและการติดตามความก้าวหน้าของสินค้าที่อยู่ในกระบวนการผลิต
    • การจัดซื้อ: ระบบ ERP ช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อสินค้า และวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิต โดยสามารถสร้างใบสั่งซื้ออัตโนมัติตามความต้องการของสต็อกสินค้า และติดตามการจัดส่งสินค้าจากผู้ผลิต
    • การขาย: ระบบ ERP สามารถจัดการข้อมูลลูกค้า การสั่งซื้อ และการส่งมอบสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ข้อมูลควบคุมคุณภาพของการบริการและการส่งมอบสินค้าถูกต้องสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
    • การบริหารคลังสินค้า: ระบบ ERP ช่วยในการบริหารจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถติดตามสต็อกสินค้าในคลังและปรับปรุงการจัดเก็บสินค้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่
    • การบริการลูกค้า: ระบบ ERP ช่วยปรับปรุงการบริการและสนับสนุนลูกค้าด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ซึ่งสามารถตอบสนองคำถามหรือข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยจัดการคำร้องของลูกค้า การส่งมอบสินค้า และการส่งคืนสินค้าเมื่อจำเป็น
    • การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเก็บข้อมูลพนักงาน การจ่ายเงินเดือน และข้อมูลเกี่ยวกับการลางาน ทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการสรรหา การส่งเสริม และการปรับปรุงทักษะของพนักงานสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น
  • 2. การประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

การประสานงานที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารองค์กร ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถประสานงานระหว่างแผนกต่างๆ และหน่วยงานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

    • การสื่อสารที่รวดเร็วและชัดเจน: ระบบ ERP ช่วยให้ข้อมูลสามารถสื่อสารได้รวดเร็วและชัดเจนระหว่างแผนกต่าง ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและลดข้อผิดพลาดในการสื่อสาร
    • ควบคุมความคืบหน้าของโครงการ: ระบบ ERP ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถติดตามความคืบหน้าของโครงการและงานต่าง ๆ ในองค์กร ทำให้สามารถควบคุมและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
    • การวางแผนและตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ: ระบบ ERP ช่วยให้ผู้บริหารสามารถมีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันในการวางแผนและตัดสินใจ โดยเฉพาะในด้านการจัดซื้อวัตถุดิบ การผลิต การขาย และการจัดการคลังสินค้า
    • การประสานงานกับภายนอกองค์กร: ระบบ ERP ยังช่วยให้องค์กรสามารถประสานงานกับคู่ค้า ซัพพลายเออร์ และลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้การทำงานร่วมกันดำเนินไปอย่างราบรื่น ทำให้ประสิทธิภาพในกระบวนการขององค์กรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    • การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด: ระบบ ERP ทำให้องค์กรสามารถรับรู้และปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของลูกค้า คู่แข่ง หรือเทรนด์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันอยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืน
  • 3. การปรับปรุงกระบวนการ

การปรับปรุงกระบวนการในองค์กรเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความแข็งแกร่งและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ การใช้ระบบ ERP ในยุคดิจิทัลนั้น ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ลดความผิดพลาด และลดเวลาที่สูญเปล่าในการประมวลผลข้อมูล ส่งผลให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร ตัวอย่างเช่น:

    • การจัดการคลังสินค้า: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามสินค้าในคลังสินค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ลดความผิดพลาดในการนับสต็อก และช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น
    • การจัดการการผลิต: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการผลิต และปรับปรุงความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินค้า
    • การวางแผนทรัพยากรบุคคล: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนการใช้งานทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ จัดการข้อมูลพนักงาน และปรับปรุงกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    • การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM): ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามประวัติการสั่งซื้อ การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหา ทำให้สามารถปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้
    • การบริหารจัดการการเงิน: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการเกี่ยวกับการเงิน เช่น การบัญชี การวางแผนงบประมาณ และการวิเคราะห์การเงิน ทำให้สามารถตัดสินใจทางการเงินอย่างมีข้อมูลพื้นฐานที่ดี

Quick Suggest

หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ

  • 4. ข้อมูลและการวิเคราะห์ระบบ

ในยุคดิจิทัลนี้ ข้อมูลเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดและสามารถนำไปใช้เป็นสิ่งขับเคลื่อนการปรับปรุงและการตัดสินใจในองค์กร การใช้ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บ จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็วและถูกต้อง การขยายข้อมูลและการวิเคราะห์ระบบในระบบ ERP นำไปสู่ประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้:

    • การวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ: ระบบ ERP ช่วยให้ผู้บริหารและผู้ดูแลระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการผลิต การเลือกใช้งานทรัพยากรบุคคล หรือการตัดสินใจทางการเงิน
    • การสร้างรายงาน: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายงานที่ต้องการอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและลดความผิดพลาดในการจัดทำรายงาน
    • การป้องกันข้อมูล: ระบบ ERP ในยุคดิจิทัลช่วยป้องกันการสูญหายของข้อมูล และป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ข้อมูลอยู่ในความปลอดภัย
  • 5. รองรับ IoT และ IIoT

ในยุคดิจิทัล มีเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง และทำให้องค์กรต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อสามารถติดตามความเปลี่ยนแปลง การใช้ระบบ ERP ที่สามารถรองรับ Internet of Things (IoT) และ Industrial Internet of Things (IIoT) ช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การรองรับ IoT และ IIoT ในระบบ ERP นำไปสู่ประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้:

    • การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร: ระบบ ERP ที่รองรับ IoT สามารถสื่อสารกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของเครื่องจักร เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
    • การวิเคราะห์ข้อมูลสื่อสารระหว่างเครื่องจักร: ระบบ ERP ที่รองรับ IIoT ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรในโรงงาน ช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิต และลดเวลาที่สูญเปล่าในการผลิต
    • การปรับปรุงกระบวนการจัดการคลังสินค้า: ระบบ ERP ที่รองรับ IoT ช่วยให้สามารถติดตามสินค้าและควบคุมคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความผิดพลาดในการนับสต็อก และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
    • การปรับปรุงความปลอดภัย: ระบบ ERP ที่รองรับ IoT และ IIoT ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์และเครื่องจักรได้อย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถป้องกันการควบคุมเครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    • การวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับปรับปรุง: ระบบ ERP ที่รองรับ IoT และ IIoT ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บมาจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาทั้งการผลิต การบริการ และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
  • 6. การปรับปรุงและการพัฒนา

ในยุคดิจิทัล การปรับปรุงและการพัฒนาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการยืนหยัดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถ:

    • ปรับปรุงกระบวนการทำงาน: ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อนในงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจน และสามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ตามความต้องการ
    • เสริมสร้างความยั่งยืน: การปรับปรุงและพัฒนาที่ต่อเนื่องช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตและปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
    • เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: องค์กรที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว มักมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น เพราะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบ ERP ที่น่าสนใจสำหรับองค์กรในยุคดิจิทัล ได้แก่ Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations และ Microsoft Dynamics 365 Business Central ซึ่งเป็นตัวอย่างของระบบ ERP ที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างระบบ ERP ในปี 2024

การนำเสนอระบบ ERP ที่มีความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ MES (Manufacturing Execution System) ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงการ ปรับปรุงการผลิต และประสานงานระหว่างฝ่ายงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MES ได้ที่ What is MES นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลจากระบบ IoT และ IIoT เข้าสู่กระบวนการของระบบ ERP เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจและวางแผนงานได้ดียิ่งขึ้น

MES Screen 2

ดังนั้น องค์กรที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพ และพร้อมสำหรับยุคดิจิทัลควรพิจารณาการนำเสนอระบบ ERP ในยุคที่ 4.0 เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น การเลือกระบบ ERP ที่เหมาะสมนั้น ไม่เพียงแต่ต้องมองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้กับกระบวนการทำงานภายในองค์กร รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจในอนาคต

สรุป

โดยสรุป ระบบ ERP ในยุคดิจิทัลและยุคที่ 4.0 นำเสนอความคืบหน้าที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ประสานงาน และการตัดสินใจขององค์กร การเลือกใช้ระบบ ERP ที่มีความสามารถในการรองรับ IoT, IIoT, และ MES จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวให้ทันสมัย พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและโกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล สำหรับองค์กรที่สนใจในการนำเสนอระบบ ERP ที่เหมาะสม ควรพิจารณา Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations และ Microsoft Dynamics 365 Business Central ซึ่งเป็นตัวอย่างของระบบ ERP ที่มีความสามารถในการรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของธุรกิจ

เมื่อองค์กรเลือกใช้ระบบ ERP ที่ตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัล และยุคที่ 4.0 แล้ว จะช่วยสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และให้ความสามารถในการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในธุรกิจ โดยรับรองความพร้อมในการสู้ศึกในยุคดิจิทัล

สุดท้ายนี้ การนำเสนอระบบ ERP ที่สามารถรองรับ IoT, IIoT, และ MES เป็นสิ่งสำคัญในยุคดิจิทัล การพิจารณาความต้องการขององค์กร และเลือกใช้ระบบที่ตอบสนองความต้องการเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ และพัฒนาธุรกิจให้สามารถสู้ศึกในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี

ก้าวเข้าสู่ Digital Business

ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่

Table of Content