ระบบ MES คือ ? ทำไมถึงเป็นเหมือนหัวใจหลักของอุตสาหกรรมยุค 4.0
MES คือ การพัฒนาและการแข่งขันในธุรกิจและอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบันเน้นที่การนำเทคโนโลยีและระบบออโตเมชันมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ยิ่งเมื่อเราอยู่ในยุค “อุตสาหกรรม 4.0” ที่ข้อมูลและเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการยกระดับการผลิตอุตสาหกรรมของประเทศ
ระบบ MES หรือ Manufacturing Execution System เป็นเหมือนหัวใจหลักของอุตสาหกรรมยุค 4.0 เป็นระบบปฏิบัติการในกระบวนการผลิต ที่เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างระบบ ERP กับ Shop floor จะทำงานโดยการรับคำสั่งการผลิต และแผนการผลิตจาก ERP ไปยังเครื่องจักร นอกจากนั้นยังสามารถเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างละเอียด
“ภาพ MES ก็เป็น Software ตัวหนึ่ง ที่ทำงานผ่าน Web browser โดยมี Application Server กับ Database Server คอยประมวลผลการทำงานและเก็บข้อมูลอยู่ด้านหลัง โดยทำหน้าที่หลักคือการวางแผนและติดตามการผลิต โดยเก็บข้อมูลที่ได้จากการเชื่อมต่อผ่าน MES Terminal กับเครื่องจักรหรือโต๊ะงานแบบ Real Time ซึ่งก็จะได้จำนวนของดี-ของเสีย เวลาที่ใช้ในการผลิต สาเหตุที่ทำให้การทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ(Six-Big losses) เพื่อสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อประเมิณศักยภาพของทรัพยากร(เครื่องจักร, บุคลากร) และพัฒนาการผลิตให้เพิ่มมากขึ้นได้ต่อไป”
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
หัวใจหลักของระบบ MES มี 4 อย่างคือ
1. การวางแผนการผลิต (Schedule Plan)
2. ใบสั่งผลิต (Production Order/ Work Order)
3. ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE)
4. การติดตามการหยุดทำงานของเครื่องจักร (Down Time Tracking)
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
โรงงานของคุณมีปัญหานี้หรือไม่
ไม่สามารถทราบถึงสถานะของการผลิตสินค้า
การขาดข้อมูลเรียลไทม์ทำให้คุณไม่รู้ว่าสินค้าอยู่ในขั้นตอนใด ทำให้การวางแผนการผลิตเป็นไปอย่างยากลำบาก
รู้ปัญหาของการผลิตล่าช้า
การตรวจพบปัญหาหลังจากเกิดขึ้นแล้วทำให้ต้องใช้เวลานานในการแก้ไข ซึ่งส่งผลต่อการส่งมอบสินค้าตามกำหนด
ไม่สามารถผลิตงานได้ตามเป้าหมาย
การที่ไม่สามารถบริหารจัดการการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้และความพึงพอใจของลูกค้า
ใช้เวลาในการทำรายงานการผลิตมาก
การทำรายงานแบบดั้งเดิมต้องใช้เวลาและแรงงานมาก ซึ่งสามารถนำเวลาเหล่านั้นไปใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ดีกว่า
มี ERP แล้วทำไมยังต้องมี MES
มีระบบ ERP แล้ว แต่ขาดข้อมูล Real-time
ถ้าคุณใช้ ERP อยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าข้อมูลไม่ทันใจและไม่ละเอียดพอ MES จะช่วยเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์และทำให้ข้อมูลมีรายละเอียดมากขึ้น
การใช้ Automation แต่ขาดการบูรณาการข้อมูล
การลงทุนในระบบ Automation เป็นสิ่งที่ดี แต่หากข้อมูลไม่สามารถส่งตรงเข้าสู่ระบบ ERP ได้ ระบบ MES จะเข้ามาช่วยเชื่อมต่อและทำให้ข้อมูลจากการผลิตสามารถนำไปใช้ได้ทันที อีกทั้งการเชื่อมต่อ ERP และ Automation ผ่าน MES จะทำให้ข้อมูลทันท่วงทีและแม่นยำมากขึ้น (Real More) ช่วยในการตัดสินใจและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
ต้องการเก็บต้นทุนการผลิตที่ละเอียด (by Order)
ถ้าคุณต้องการรู้ต้นทุนการผลิตแบบละเอียด เช่น ต้นทุนต่อออเดอร์ MES จะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น
ต้องการวางแผนและติดตามการผลิตให้ดีขึ้น (Detail Planning)
MES ช่วยให้การวางแผนและติดตามการผลิตทำได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น คุณจะสามารถจัดการการผลิตได้ดีกว่าเดิม
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ ERP และ Automation
MES จะทำให้การใช้ ERP และ Automation คุ้มค่ามากขึ้น เพราะจะสามารถใช้ข้อมูลจากทั้งสองระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เมื่อไหร่ควรจะลงทุนใน MES ?
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การใช้ระบบ MES (Manufacturing Execution System) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานในโรงงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เมื่อไหร่ควรจะลงทุนใน MES? การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เรามาดูกันว่าเวลาใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลงทุนใน MES
เมื่อประสิทธิภาพการผลิตต่ำ
หากโรงงานของคุณพบว่ามีประสิทธิภาพการผลิตต่ำ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณต้องการระบบ MES เพื่อช่วยในการติดตามและปรับปรุงกระบวนการผลิต การใช้ MES จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตและแก้ไขได้ทันที
เมื่อมีปัญหาด้านการจัดการข้อมูล
หากโรงงานของคุณมีปัญหาในการจัดการข้อมูล เช่น การเก็บข้อมูลไม่ครบถ้วน ข้อมูลซ้ำซ้อน หรือการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ การใช้ MES จะช่วยให้คุณสามารถเก็บข้อมูลการผลิตได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อพบปัญหาด้านคุณภาพ
การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำหรือต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาคุณภาพบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรลงทุนใน MES ระบบ MES จะช่วยในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้ลดปัญหาสินค้าเสียและเพิ่มคุณภาพสินค้า
เมื่อมีการขยายตัวของธุรกิจ
หากธุรกิจของคุณกำลังขยายตัว การลงทุนใน MES จะช่วยให้การจัดการกระบวนการผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถรับมือกับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่เกิดปัญหา และช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
เมื่อมีความต้องการในการปรับปรุงกระบวนการผลิต
หากคุณมีแผนที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ MES จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้คุณสามารถวางแผนและติดตามการปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างเป็นระบบ
การลงทุนใน MES เป็นการตัดสินใจที่สำคัญและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อคุณพบปัญหาในกระบวนการผลิตหรือมีแผนที่จะปรับปรุงธุรกิจ การใช้ MES จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด
การตัดสินใจลงทุนใน MES ควรทำเมื่อโรงงานของคุณพร้อมและมีเป้าหมายที่ชัดเจน การใช้ MES อย่างเหมาะสมจะช่วยให้การดำเนินงานของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เปรียบเทียบ MES System และ Andon System เลือกอะไรให้เข้ากับธุรกิจของคุณ?
การทำให้โรงงานของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ทุกผู้ประกอบการต้องการ แต่การเลือกระบบที่ใช่สำหรับคุณจะยากยิ่งขึ้นเมื่อมีการนำเสนอระบบใหม่ ๆ เข้ามาตลอดเวลา
ระบบ MES ช่วยจัดการผลิตและติดตามข้อมูล และ Andon System ที่เน้นการแจ้งเตือนปัญหาในขณะที่มีปัญหาเกิดขึ้น สองระบบนี้เป็นเพียงส่วนย่อยของเทคโนโลยีที่มีอยู่ในวันนี้
- ต้องการทราบว่าระบบไหนที่คุณควรลงทุน?
- ระบบใดมีการปรับปรุงและการพัฒนาที่ได้ผลมากขึ้น?
- ควรใช้ระบบไหนในแต่ละสถานการณ์?
พบกับคำตอบทั้งหมดในบทความฉบับเต็มของเรา และเตรียมตัวให้พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีที่จะพาธุรกิจของคุณขึ้นไปอีกขั้น
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
อยากใช้ระบบ MES จำเป็นต้องมีระบบ ERP ก่อนหรือไม่?
ไม่จำเป็น เพราะระบบ MES สามารถใช้งานแบบ Stand Alone ได้ ซึ่งในส่วนการเปิดใบสั่งผลิต จะเปิดผ่านโปรแกรม MES ซึ่งในอนาคตหากต้องการให้ MES เชื่อมต่อกับ ERP หรือโปรแกรมจัดการภาพรวมทางธุรกิจอื่น ๆ ก็สามารถทำในภายหลังได้
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
เลือก "Quick ERP" ระบบ MES ครบวงจร รองรับอุตสาหกรรม 4.0
Quick ERP ให้บริการระบบ MES ครบวงจรที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุค 4.0 พร้อมให้คุณเลือกใช้งานทั้ง Plex MES และ Quick SFC ระบบ MES ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน พร้อมมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล
Plex MES จาก Rockwell Automation เป็นระบบการจัดการการผลิตแบบครอบคลุมที่ช่วยให้โรงงานสามารถติดตามและควบคุมกระบวนการผลิตได้แบบเรียลไทม์ ครอบคลุมทุกขั้นตอน พร้อมเชื่อมต่อกับระบบ ERP อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้งานอัตโนมัติ ป้องกันข้อผิดพลาด เพิ่มคุณภาพในสายการผลิต และเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกระดับ
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
Quick SPC (Shop Floor Control) ระบบ MES ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน รับรู้ต้นทุนการผลิตแบบ Real Time เช่น OEE Report, Scrap Report, Breakdown Report เป็นต้น ข้อมูลสถานะการผลิตจาก Machines จะส่งตรงไปยังระบบ ERP ที่คุณมีอยู่แล้วให้โดยอัตโนมัติแบบไร้รอยต่อตามข้อกำหนดของ ISA-95 ซึ่งข้อกำหนด ISA-95 จะทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการบูรณาการระหว่างระบบ ERP และ MES ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมากจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โดย Quick ERP เป็นผู้ให้บริการระบบ MES ทั้ง 2 ระบบ คือ Plex MES และ Quick SFC เพื่อตอบโจทย์การผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของลูกค้าทุกรายในทุกอุตสาหกรรมและทุกขนาดอย่างแท้จริง
ความสามารถของ Quick SPC
นอกจากติดตามและแสดงผลสถานะการผลิตแบบเรียลไทม์แล้ว ระหว่างการผลิต MES ยังแสดงผลการทำงาน 3 ด้าน ที่อัปเดตเป็นวินาที คือ
Planning & Scheduling
ใช้เครื่องมือ MES เพื่อวางแผนและกำหนดตารางการผลิต ช่วยให้คุณกำหนดตารางการผลิตรายวันได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง เพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด
Shop Floor Data Collection
การเก็บรวบรวมข้อมูลในสายการผลิต ระบบ MES ช่วยให้มองเห็นข้อมูลสถานะต่าง ๆ ในสายการผลิตแบบ Real-time ช่วยลดเวลาในการรวบรวมข้อมูลแบบManual เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Machine Monitoring
การตรวจสอบเครื่องจักร ทำให้สถานะการผลิตของแต่ละเครื่องจักรมองเห็นได้ง่าย ๆ สำหรับทุกคนด้วยระบบ MES
Connect Machines
เชื่อมต่อเครื่องจักรกับระบบ MES เซ็นเซอร์ที่ต่อกับ MES Terminal เปิดให้โปรแกรม MES สามารถใช้ข้อมูล เช่น จำนวนผลผลิต (Part Count) เวลาเครื่องหยุด (Breakdown)
Performance analysis
ระบบ MES ช่วยให้องค์กรของคุณมีประสิทธิภาพและง่ายสำหรับวิเคราะห์ความสูญเสียเพื่อให้คุณสามารถขับเคลื่อนสู่มาตรฐานสากล ด้วยตัวชี้วัดที่เราเตรียมไว้ดังนี้
1. ตัวชี้วัดความสูญเสีย 6 ประการ (Six Big loss)
2. ตัวชี้วัดประสิทธิภาพโดยรวมของพนักงาน (OLE)
3. ตัวชี้วัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE)
Quick SPC แสดงผลการทำงาน 3 ด้าน ที่อัปเดตเป็นวินาที
นอกจากติดตามและแสดงผลสถานะการผลิตแบบเรียลไทม์แล้ว ระหว่างการผลิต MES ยังแสดงผลการทำงาน 3 ด้าน ที่อัปเดตเป็นวินาที คือ
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน หรือ Availability (A)
หน้าจอจะแสดงให้เห็นแถบสีสถานะการทำงาน โดยสีเขียวคือช่วงเวลาที่เครื่องจักรทำงาน และสีส้มคือช่วงเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน การแสดงผลนี้จะทำให้เห็นว่าตลอดระยะเวลาทำงาน 8-9 ชั่วโมง เจ้าหน้าผู้ควบคุมที่อยู่ที่หน้างานหรือไม่, เครื่องจักรมีการทำงานจริงๆ กี่ชั่วโมง และยังบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของเครื่องจักร หากเครื่องจักรหยุดทำงานนาน ๆ บ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าเครื่องจักรเริ่มมีปัญหา
ด้านจำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้ต่อระยะเวลาการผลิต หรือ Performance (P)
ระบบ MES จะคำนวณค่า P ว่าในแต่ละรอบการผลิตจะต้องผลิตชิ้นงานได้กี่ชิ้น และการผลิตจริงสามารถผลิตได้กี่ชิ้น เป็นไปตามที่ประเมินไว้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่ประเมิน หัวหน้างาน สามารถนำข้อมูลมาปรับแผนการผลิตได้ทันที เพื่อให้ได้จำนวนชิ้นงานตามที่วางแผน
ด้านคุณภาพ หรือ Quality (Q)
ระบบ MES จะแสดงผลการผลิตตลอดเวลาว่ามีผลงานที่ใช้ได้กี่ชิ้น และผลงานที่เสียกี่ชิ้น จะต้องผลิตเพิ่ม หรือ ต้องแก้ปัญหาอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลงานเพียงพอตามออร์เดอร์ของลูกค้า
ตัวอย่างการทำงานของ Quick SPC
ยกตัวอย่างสถานีการผลิตในโรงงาน ในสถานีการผลิตนี้ประกอบไปด้วยระบบ MES ซึ่งมี MES terminal , scanner , Remote IO ผลผลิตจะถูกแบ่งออกเป็น OK คือการผลิตที่สมบูรณ์ ส่วน NG เป็นของเสียจากการผลิต
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
การทำงานของระบบ MES เริ่มแรก รับ work order มาบันทึกใน Schedule plan ส่งไปยังสายการผลิต ซึ่งในขั้นตอนแรกจะเห็นหน้าจอ waiting เลือก work order โดยการแสกนยืนยันการขึ้นงานจากสถานีการผลิตในทุก ๆ event ของการขึ้นงานในกระบวนการผลิตจะมีการจับเวลาและให้เหตุผล ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าเราใช้เวลาไปกับขั้นตอนใด ระยะเวลาเท่าใด
สแกนใบสั่งผลิตที่ต้องการขึ้นงาน เลือกใบสั่งผลิต สแกนในส่วนของ Operator admin และ Tool ที่ใช้ จากนั้นจึงทำการ Start plan เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
ถัดมาหน้าจอจะแสดงหน้า setting ซึ่งเครื่องจักรทำงานโดยการนำวัตถุดิบไปวางเตรียมพร้อมเพื่อรอการผลิต หลังจากการ setting ระบบจะเข้าสู่ขั้นตอน inspection
เมื่อผู้ตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบสถานีเรียบร้อยแล้ว ทำการสแกนบัตรเพื่อจบการตรวจสอบ และ operator ก็จะสแกนเพื่อเข้าสู่ ขั้นตอน running ต่อไป
เมื่อผลิตเสร็จพนักงานจะสแกน Stop plan จากนั้นข้อมูลผลิตจะถูกบันทึกผลข้อมูลในโปรแกรม MES และ ส่งกลับไปยังระบบ ERP
Quick SPC ทำให้คุณรู้ว่าวินาทีไหนที่เครื่องจักรผลิตเงินให้คุณ และวินาทีที่คุณต้องจ่ายเงิน
Dashboard ใน Quick SPC นอกจากจะแสดงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรที่เราเรียกกันว่า OEE แล้วยังแสดง ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญอีก 2 ตัวชี้วัดคือ ROA และ COGS ในแบบ Realtime
ด้วยการเขื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ร่วมกับ ระบบ Quick SPC คุณจะทราบได้ตลอดเวลาเลยว่าในบรรดาเครื่องจักรที่คุณซื้อมา เครื่องจักรใดวินาทีนี้กำลังทำเงินให้คุณอยู่ด้วยมูลค่าเท่าไหร่ (ผลิตสินค้า) และ เครื่องจักรใดวินาทีนี้ คุณเองกลับต้องจ่ายเงินออกไปให้โดยไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค่าใช้จ่าย) เช่น ค่าไฟ ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานสรุปสิ้นวัน โดยจะทราบทันทีว่า “วันนี้เครื่องจักรเหล่านี้เป็นเครื่องจักรที่ผลิตเงินให้คุณหรือเป็นค่าจ่ายให้คุณกันแน่”
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
7 ประโยชน์ของ Quick SPC สำหรับโรงงาน
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
2. Realtime Monitoring and Tracking
เราสามารถติดตามสถานะของเครื่องจักรได้แบบ Realtime และดูประวัติย้อนหลังได้
3. Reduce Time and Cost
Quick MES สามารถทำให้เราลดเวลาในการรับรู้ถึงปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้นและทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง
-
4. Focus Problem
Quick MES สามารถ Focus ปัญหาได้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากในแต่ละขั้นตอนจะมีการระบุเหตุของปัญหา ทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น
5. Increase efficiency
Quick MES ทำให้เราสามารถเพิ่ม Efficiency ได้ เนื่องจากเมื่อเราทราบปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น
6. Improvement Process
Quick MES มีการเก็บประวัติการทำงานทุกช่วงเวลาที่ทำงาน ทำให้เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหา และปรับปรุงขึ้นตอนการทำงาน ให้ดีขึ้นได้อย่างง่ายดาย
7. Data Transparency
Quick MES สามาถทำให้เราทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้แบบชัดเจน และถูกต้องมากขึ้น เนื่องจากการเก็บข้อมูลแบบ Realtime และรับจำนวนการผลิตจากเครื่องจักรโดยตรง
ก้าวเข้าสู่ Industry 4.0
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่