Metaverse ต่อยอด MR เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจและอุตสาหกรรม

Quick ERP นำอุปกรณ์กับซอฟต์แวร์มาสร้างโซลูชันและออกแบบโลกเสมือนให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานและรูปแบบธุรกิจ ให้ Metaverse กลายเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยสามารถใช้งานและเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
blog Metaverse

“Quick ERP” ลุย Metaverse สร้างเทคโนโลยีโลกเสมือน พาธุรกิจไทยมุ่งสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ

บริษัท Quick ERP เปิดตัว Metaverse สำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยการสร้างโลกเสมือนซ้อนทับกับสิ่งแวดล้อมจริงด้วยเทคโนโลยี Mix Reality (MR) ให้สามารถใช้ทำงานบน 2 โลกที่รวมกันเสมือนเป็นโลกเดียวได้อย่างกลมกลืน ด้วย IoT และ Big Data เชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ทั้ง HoloLens, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดย Quick ERP นำอุปกรณ์กับซอฟต์แวร์มาสร้างโซลูชันและออกแบบโลกเสมือนให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานและรูปแบบธุรกิจ ให้ Metaverse กลายเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยสามารถใช้งานและเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างสร้างสรรค์นวัตกรรมหลากหลายได้

blog Metaverse1 1

คุณกฤศ เพ็งอ้น ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) บริษัท ควิก อีอาร์พี จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยี Mix Reality (MR) คือ เทคโนโลยีโลกเสมือนที่สร้างสิ่งจำลองขึ้นมาซ้อนทับ โดยใช้ข้อมูล หรือ DATA ที่เก็บและรวบรวมไว้อยู่ในฐานข้อมูล ผนวกเอาเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดภาพที่มีมิติ เสมือนจริง ที่สำคัญคือตอบสนองกับโลกจริงได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้งานภาพเสมือนนั้นในการทำงานจริง ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์

“จุดเด่นของ Metaverse ที่มีต่อโลกของธุรกิจและอุตสาหกรรม คือ สามารถเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ใช้งานได้ ในแบบที่เทคโนโลยีที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้ ตัวอย่างเช่น กิจกรรมในอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หากผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถอยู่ที่หน้างานได้ ก็ทำให้งานต้องหยุดชะงัก แต่ Metaverse จะช่วยลบปัญหานี้ออกไป เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้โลกเสมือนนี้ทำงานร่วมกับผู้ที่อยู่หน้างานได้ราวกับว่าอยู่ที่เดียวกัน หรือในปัจจุบันการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid) กลายเป็นรูปแบบการทำงานใหม่ Metaverse ก็จะช่วยให้การทำงานแบบไฮบริดนี้แทบจะไร้รอยต่อ นอกจากนี้ยังสร้างแอปพลิเคชันให้แสดงผลออกมาและใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จริงได้” คุณกฤศ เพ็งอ้น เสริม

โลกเสมือนจะถูกสร้างขึ้นมาจากข้อมูล หรือ DATA ที่เก็บรวบรวมไว้ในฐานข้อมูล ไม่ว่าจะอยู่ใน ERP หรือ WMS รวมถึงฐานข้อมูลอื่นๆ ของบริษัทก็สามารถนำมาใช้งาน และใช้ IoT สื่อสารมายังผู้ใช้งาน หรือ Operator ซึ่งการสร้างโลกเสมือนด้วยการประมวลผลจากข้อมูลจริง ทำให้ได้ภาพเสมือนที่สะท้อนความจริง และเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการฝึกอบรม, ลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต, ลดความผิดพลาดในการทำงาน, ลดต้นทุนในการจ้างแรงงาน, สร้างการทำงานแบบไฮบริด และช่วยให้การซ่อมบำรุงเครื่องจักรอุปกรณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้พัฒนา Metaverse มาจาก 2 พาร์ตเนอร์สำคัญของ Quick ERP คือ Microsoft และ Rockwell ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก โดยนำ HoloLens ของ Microsoft เข้ามาพัฒนาร่วมกับซอฟต์แวร์ Vuforia ของ PTC ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์กับ Rockwell Automation ทำให้ Quick ERP สามารถนำอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของทั้ง 2 บริษัทมาประยุกต์และพัฒนาโปรแกรมใหม่ๆ ให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยได้อย่างไร้ข้อจำกัด

คุณประชากร ตาสุสี วิศวกรอาวุโส (Senior Engineer) บริษัท ควิก อีอาร์พี จำกัด กล่าวว่า การนำเทคโนโลยี Mix Reality มาสร้างโลก Metaverse ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง หรือ ใช้ทุนจำนวนมาก เนื่องจากสามารถออกแบบโปรแกรมให้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ดิจิทัลที่หลากหลาย ตั้งแต่ HoloLens ไปจนถึง อุปกรณ์ใกล้ตัวอย่าง แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ก็สามารถนำมาใช้เป็นอุปกรณ์แสดงผลให้สามารถใช้ทำงานได้เช่นเดียวกัน

“การทำงานที่ผสมผสานทั้งโลกเสมือนและโลกจริง ไม่เพียงเป็นมิติใหม่ในธุรกิจและอุตสาหกรรมบ้านเรา แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และช่วยแก้ปัญหาให้กับกิจการได้จริง เช่น บางองค์กรประสบปัญหาองค์ความรู้หายไปพร้อมกับการเกษียณของพนักงานอาวุโส ซึ่งเทคโนโลยี Metaverse สามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยการเก็บองค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด สร้างเป็นภาพเสมือนแสดงการทำงานของผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับข้อมูลเทคนิค ซึ่งสามารถแสดงให้ผู้ใช้งาน หรือ พนักงานรุ่นใหม่ๆ เรียนรู้ตามได้อย่างรวดเร็ว สามารถลดเวลาในการฝึกอบรม และเพิ่มทักษะให้คนทำงานรุ่นใหม่ได้เร็วและมากขึ้น”

นอกจากนี้ Metaverse ยังนิยมนำมาใช้ในงานอบรม (Training) เช่น การประกอบชิ้นงานในสายการผลิต เทคโนโลยี MR จะแสดงขั้นตอนการผลิตอย่างละเอียดให้ผู้ใช้งานทำงานทำตามได้ ผู้ใช้งานใส่แว่น HoloLens สามารถใช้มือทั้ง 2 ข้าง ทำงานตามภาพเสมือนที่แสดงให้เห็นผ่านเลนส์แว่นได้อย่างคล่องตัว ลดเวลาในการฝึก และลดความผิดพลาดในกระบวนการผลิต

คุณกฤศ เพ็งอ้น เสริมว่า เทคโนโลยี Mix Reality ยังมีประโยชน์กับการใช้งานในคลังสินค้า (Warehouse) โดยโปรแกรมจะเก็บภาพและวิเคราะห์แบบแปลนของคลังสินค้า เพื่อสร้างคลังสินค้าเสมือนไว้ในระบบ และทำงานร่วมกับ ERP และ WMS เมื่อมีการสั่งงาน หรือ ออร์เดอร์งาน ERP หรือ WMS จะส่งข้อมูลรหัสสินค้า และหมายเลขชั้นวาง จำนวน ชนิดของสินค้ามาให้ที่อุปกรณ์ ซึ่งใช้ได้ตั้งแต่ แว่น HoloLens จนถึงแท็บแล็ต และสมาร์ทโฟน อุปกรณ์เหล่านี้จะประมวลผล และสร้างเส้นทาง เป็น Navigator ให้กับผู้ใช้งานไปถึงเป้าหมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถอัปเกรดเพิ่มความสามารถให้อุปกรณ์ให้สามารถทำงานได้หลายฟังก์ชัน เช่น บันทึกข้อมูลสินค้า ตัดสต็อกส่งเข้าระบบ ERP, ใช้สแกนบาร์โค้ด ผ่านอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว

blog Metaverse2

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ NASDAQ ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าทางธุรกิจของอุตสาหกรรม Metaverse ทั่วโลกมีโอกาสไปถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเทศไทยคาดว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า มูลค่าธุรกิจ Metaverse จะมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเริ่มหันมาใช้ หรือ ให้ความสนใจ Metaverse ตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะสามารถเตรียมพัฒนาธุรกิจให้พร้อมสำหรับการแข่งขันบนธุรกิจดิจิทัล ผ่านการใช้เทคโนโลยี Metaverse ที่มีประสิทธิภาพและเห็นประสิทธิผลที่เกิดขึ้นกับธุรกิจชัดเจน

ก้าวเข้าสู่ Industry 4.0

ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่

Table of Content