e-Tax คืออะไร ? e-Tax บน ERP ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรได้อย่างไร ?

e-Tax คือ มีกี่ประเภท ตอบโจทย์การทำธุรกิจยุคดิจิทัลอย่างไร เหมาะกับองค์กรแบบไหน ธุกิจแบบไหนควรมีระบบ e-Tax ใน ERP มีประโยชน์อย่างไร
e Tax คืออะไร e Tax บน ERP ดีอย่างไร

e-Tax Invoice คืออะไร ?

ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) เป็นเอกสารที่อยู่ในระบบภาษีที่เรียกว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมักจะเห็นหรือได้ยินบ่อย ๆ ตอนไปซื้อของตามห้าง หรือร้านค้าต่าง ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้านค้าเหล่านั้นก็จะมีหน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีให้เรา ซึ่งปกติจะอยู่ในรูปแบบของเอกสารกระดาษ 2 รูปแบบ

  • แบบเต็มรูป – มีชื่อและรายละเอียดของผู้จ่ายเงินครบถ้วน
  • แบบย่อ – ออกให้โดยไม่ระบุชื่อผู้จ่ายเงิน

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น กรมสรรพากรจึงพัฒนาระบบการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ลดความซับซ้อน ช่วยให้การจัดการงานเอกสารไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป โดยเปลี่ยนจากการทำข้อมูลกระดาษมาเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้อยู่ในรูปแบบ XML, PDF หรือ PDF/A-3 ซึ่งมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ช่วยให้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใบกำกับภาษีจริง

e-Tax Invoice มีกี่ประเภท

e-Tax Invoice มีทั้งหมด 2 ประเภท คือ

  • 1. e-Tax Invoice by Time Stamp หรือชื่อเดิมคือ e-Tax Invoice by e-mail

จัดทำขึ้นเพื่อรองรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี

  • 2. e-Tax Invoice & e-Receipt

สำหรับธุรกิจที่ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีรายได้เกิน 30 ล้านบาทต่อปี มีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ และมีระบบควบคุมภายใน ซึ่งสามารถสร้าง ส่ง และเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้

e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร ?

  • ด้านล่างของ e-Tax Invoice & e-Receipt จะระบุว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์”

  • “Digitially signed by…” ที่หมายถึงลายเซ็นทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เซ็นยืนยันว่าเป็นใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จริง

e-Tax Invoice by Time Stamp (e-Tax Invoice by e-mail) คืออะไร ?

จริง ๆ แล้ว e-Tax Invoice by e-mail ก็คือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เหมือนกันกับ e-Tax Invoice & e-Receipt แต่มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

เงื่อนไข

e-Tax Invoice by e-mail

e-Tax Invoice & e-Receipt

การจำกัดรายได้

รายได้ไม่ควรเกิน 30 ล้านบาท

ไม่จำกัดรายได้

การรับรอง

ประทับรับรองเวลา (Time Stamp) จาก ETDA

ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์และลงรายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)

การส่งมอบ

ส่งผ่านอีเมล

สามารถใช้วิธีตามที่ตกลงกันภายใต้ พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

การจัดทำ

PDF/A-3 โดยมีข้อมูล XML ตามรูปแบบที่กำหนด

จัดทำในรูปแบบใดก็ได้ เช่น PDF, PDF/A-3 หรือ XML

ประเภทเอกสาร

ใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ และใบลดหนี้

ใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับ

การนำส่ง

สามารถส่งข้อมูลผ่าน e-mail โดยไม่ต้องนำส่งเอกสารยื่นให้สรรพากรโดยตรง

นำส่งผ่าน 3 ช่องทางตามความเหมาะสมขององค์กร

หมายเหตุ: และด้านล่างของเอกสารจะระบุว่า “ใบกำกับภาษีเลขที่…นี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์” และมีสัญลักษณ์ของ e-Tax Invoice by e-mail แต่จะไม่ได้ระบุ Digitially signed by… เหมือนกับ e-Tax Invoice & e-Receipt

ทำไมธุรกิจควรเริ่มใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ?

  •  1. ลดต้นทุน

ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ดำเนินการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำให้ช่วยองค์กรประหยัดต้นทุนกระดาษ ค่าพิมพ์เอกสาร ค่าจัดส่งส่ง และรวมถึงค่าจัดเก็บเอกสารได้มากกว่า 60%

  • 2. ลดขั้นตอนการทำงาน เพิ่มความสะดวก

ช่วยให้การออกใบกำกับภาษีหรือใบรับมีความสะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาในการทำงาน

  • 3. ลดความเสี่ยง

e-Tax Invoice & e-Receipt มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ซึ่งเป็นหลักฐานทางภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีความปลอดภัยต่อการถูกปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันเอกสารสูญหาย

  • 4. สะดวกต่อการตรวจสอบ

e-Tax Invoice & e-Receipt ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังเป็นเรื่องง่าย สามารถตรวจสอบใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินได้สะดวกขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเอกสาร

  • 5. มีความเป็นมืออาชีพ

ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt สามารถนำมาวิเคราะห์และสร้างรายงานเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้ เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจได้มากขึ้น สนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังลดความผิดพลาดในการออกเอกสารด้านภาษี ทำให้ธุรกิจมีความเป็นมืออาชีพ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

e-Tax in ERP เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?

ในยุคที่การติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันสามารถทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย การใช้ระบบ ERP ทำงานร่วมกับ e-Tax ในยุคดิจิทัลก็เป็นอีกหนึ่งโซลูชันที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะ e-Tax in ERP ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การจัดการด้านภาษีง่ายและสะดวกมากขึ้น แต่ยังสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจและจัดการความซับซ้อนมีความเป็นระบบและแม่นยำขึ้น เพิ่มโอกาสและความสามารถในการแข่งขันไปอีกขั้น

ติดตั้งระบบ e-Tax ใน ERP Microsoft Dynamics 365 ได้ไหม ?

การนำระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) ติดตั้งเข้ากับ ERP ที่คุณมีอยู่แล้ว อย่าง Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations (FO) ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ติดต่อ Quick ERP

เรามีบริการเชื่อมต่อ กับระบบ ERP (Microsoft Dynamics 365 FO และ Microsoft Dynamics 365 BC) ดังนี้

  1. การนำส่งข้อมูลให้ Service provider
  2. การจัดทำ XML ผ่านระบบ Quick E-Tax เพื่อ Upload ขึ้นระบบสรรพกร http://www.atsi.or.th/eTax.php 

ติดตั้งระบบ e-Tax ใน ERP เป็นประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ

  • 1. ข้อมูลแม่นยำ เป็นอัตโนมัติ

ระบบ e-Tax มีการคำนวณและยื่นภาษีที่เป็นอัตโนมัติ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด อีกทั้งโปรแกรมยังสามารถอัปเดตข้อมูลด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีีให้องค์กรของคุณได้อีกด้วย ทำให้องค์กรมั่นใจได้เลยว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดแน่นอน

  • 2. ยื่นเอกสารรวดเร็ว

หากองค์กรของคุณยื่นภาษีเกินระยะเวลาที่กำหนดจะได้รับการลงโทษและเสียดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับการส่งเอกสารล่าช้า ซึ่ง e-Tax จะเข้ามาแก้ปัญหาด้วยการเร่งกระบวนการยื่นภาษีให้เร็วขึ้น

  • 3. ข้อมูลมีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ

ERP Microsoft Dynamics 365 มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ทำให้ข้อมูลในระบบถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังมีระบบสำรองข้อมูล ที่ช่วยป้องกันข้อมูลสูญหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • 4. ความโปร่งใสของข้อมูล

หากต้องการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลธุรกรรรมก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมดผ่านระบบ ERP

  • 5. รองรับการเติบโตขององค์กรในอนาคต

เมื่อองค์กรของคุณเติบโตขึ้นในอนาคต ความซับซ้อนทางด้านภาษีและปริมาณการทำธุรกรรมก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นการมีระบบ ERP เข้ามาช่วยบริหารจัดการเกี่ยวกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะไม่ว่าองค์กรของคุณจะเติบโตรวดเร็วขนาดไหน e-Tax in ERP ก็สามารถรองรับทุกการเติบโตขององค์กรคุณ

ธุรกิจแบบไหนที่ควรติดตั้งระบบ e-Tax in ERP

  1. มีระบบ ERP อยู่แล้ว
  2. ทำธุรกรรมบ่อยครั้ง
  3. ประหยัดทรัพยากร
  4. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
  5. ต้องการขยายการเติบโต

ก่อนติดตั้ง e-Tax บน ERP ควรพิจารณาอะไรบ้าง

  • 1. เลือกระบบที่เหมาะสม

ก่อนอื่นคุณต้องตรวจสอบดูเสียก่อนว่าระบบ e-Tax ที่คุณต้องการใช้งานร่วมกับระบบ ERP ของคุณที่มีอยู่แล้ว จะสามารถนำมา Integrate กันได้อย่างมีประสิทธิผล อย่าง Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations (FO) ที่สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม Quick E-Tax ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญจาก Quick ERP ที่สามารถขอรับคำปรึกษาด้านภาษีและการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการขององค์กรได้อย่างเหมาะสม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรของคุณ

  • 2. งบประมาณและความคุ้มค่า

การเลือกระบบที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขายและระบบมีความสอดคล้องกับงบประมาณก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้องค์กรได้รับความคุ้มค่าที่สุดในการใช้งานระบบ

  • 3. เตรียมทรัพยากรให้พร้อม

ต่อมาคุณจะต้องเตรียมข้อมูลและเอกสารสำหรับการติดตั้ง และเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกอบรมพนักงานใช้งานระบบ e-Tax ได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้การดำเนินการของระบบ และการทำงานของพนักงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

  • 4. เลือก Quick E-tax

ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจด้านการจัดการภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วย Quick E-Tax จาก Quick ERP ที่เป็นมากกว่าโปรแกรมที่ให้บริการด้านภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำแก่องค์กรของคุณได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้งาน e-Tax บน ERP เป็นไปอย่างราบรื่น นำมาซึ่งความสำเร็จของธุรกิจคุณ

ปรึกษาการติดตั้งระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์กับ Quick ERP

Quick ERP ได้ขึ้นทะเบียนโปรแกรม Quick E-tax จากกรมสรรพากร และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งประเทศไทย โดยเป็นโปรแกรมจัดทำและจัดเก็บ เอกสารใบกำกับภาษี ใบรับเงิน ใบลดหนี้ ใบเพิ่มหนี้ ทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้ววันนี้ที่ Quick ERP

บทส่งท้าย

ด้วยความสามารถของระบบ ERP ที่สร้างและส่งใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเป็นอัตโนมัติ และส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไปกรมสรรพากรโดยตรง ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้กระดาษและความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลเท่านั้น แต่เมื่อใดที่มีการออกใบกำกับภาษีและใบรับผ่านระบบ ERP ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบเดียวกันทั้งหมด การยื่นภาษียังเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถตรวจสอบย้อนหลัง ติดตามข้อมูลภาษีได้ทันที มีความโปร่งใส ลดความเสี่ยงในการถูกปรับ ทำให้การดำเนินการเรื่องภาษีไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป เพิ่มโอกาสและความสามารถให้องค์กรของคุณด้วยบริการนำส่งข้อมูล Service Provider หรือ ระบบ Quick E-tax จาก Quick ERP รองรับทุกการเติบโต พร้อมผลักดันธุรกิจสู่ความสำเร็จในอนาคต

Table of Content