Salesforce คืออะไร? มีจุดเด่นอย่างไร?
Salesforce เป็นหนึ่งโปรแกรม Customer Relationship Management (CRM) หรือ การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากบริษัทชั้นนำทั่วโลกและได้รับการประเมินจากบริษัทวิจัยตลาดและที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีข้อมูลระดับนานาชาติชื่อดังอย่าง IDC ในงาน Conference worldwide ปี 2023 ที่ผ่านมา ว่าเป็นโปรแกรมอันดับหนึ่งในการจัดการข้อมูลและการติดต่อกับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
Salesforce แตกต่างจาก CRM แบรนด์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง?
หลาย ๆ คนคงกำลังตั้งคำถามว่าในตลาดมีโปรแกรมด้าน CRM มากมาย แต่ Salesforce มีความโดดเด่นอย่างไรจนได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก
แม้ว่า Salesforce จะถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ แต่ความโดดเด่นของ Salesforce นั้นคือการให้ความสำคัญกับทีมงานที่ส่วนร่วมในการใช้งาน Salesforce เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทีมขาย ทีมการตลาด รวมทั้งทีมบริการด้วย โดยทั้ง 3 ทีมนี้สามารถใช้โปรแกรม Salesforce ในการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าได้ตั้งแต่จนจนจบได้อย่างสะดวกมากขึ้น
อีกทั้ง Salesforce ยังมีความโดดเด่นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ประมวลผล และจัดการกระบวนการทำงานระหว่างทางให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานโปรแกรมสามารถตัดสินใจเลือกโซลูชั่นในการทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิผล
ดังนั้น Salesforce จึงไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกที่ดีในการจัดการข้อมูลลูกค้า แต่ยังเป็นโปรแกรมที่สามารถรองรับทีมงานทุกระดับ มีให้ประสิทธิภาพและสะดวกต่อการใช้งานยิ่งกว่าโปรแกรมจัดการ CRM แบรนด์อื่นนั่นเอง
ข้อดีและข้อจำกัดของ Salesforce คืออะไร?
ข้อดี
User Interface เป็นมิตรและใช้งานง่าย
ข้อดีของ Salesforce ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด คือ UI หรือ User Interface ที่เป็นมิตรและใช้งานง่ายต่อผู้ใช้งานอย่าง ทีมขาย ทีมการตลาด และทีมบริการ เพราะ Salesforce เป็นโปรแกรมที่ออกแบบรูปแบบการทำงานมาให้สอดคล้องกับการทำงานของทีมขาย ทีมการตลาด รวมถึงทีมบริการโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถปรับแต่ง Workflow ฟอร์ม และฟิลด์ได้ตามความต้องการเฉพาะของการทำงานของผู้ใช้งานแต่ละทีม
Report and Dashboard แบบ Visualize
มีระบบ Report and Dashboard ที่สามารถนำข้อมูลลูกค้าที่ถูกจัดเก็บมาวิเคราะห์รายบุคคล รายทีม หรือดูภาพรวมใหญ่ ๆ ในรูปแบบรายวัน รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี และจากนั้นโปรแกรมก็จะรายงานข้อมูลบน Dashboard ในรูปแบบ Visualize ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดและตัดสินใจได้ง่ายกว่า Report table แบบเดิม
Application และการใช้งานในรูปแบบ Cloud
– จุดเด่นของ Salesforce ที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Application และการใช้งานในรูปแบบ Cloud services ที่เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานโปรแกรม Salesforce เมื่อไหร่ ที่ไหน หรืออุปกรณ์ใดก็ได้ พร้อมทั้งการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชื่อ Einstein AI ที่ทำให้ผู้งานมีความสะดวกสบายมากขึ้นไม่ต้องกำหนดโครงสร้างก่อนการใช้งาน (Non config infrastructure) โดย Einstein AI จะสามารถทำนายแนวโน้ม ประมวลผลข้อมูล และให้คำแนะนำอัตโนมัตได้อย่างแม่นยำ
ทีมงาน Support ทั่วโลก
ทีมงาน Support ที่พร้อมสนับสนุน หากผู้ใช้งานมีปัญหาหรือข้อสงสัยในการใช้งานโปรแกรม ทาง Salesforce ก็มีทีมงานพร้อมสนับสนุนการให้ข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ติดต่อ Quick ERP
ข้อจำกัด
ทำงานบนระบบ Cloud 100%
หากพูดถึงข้อจำกัดของโปรแกรม Salesforce อาจจะไม่ได้เป็นข้อจำกัดเสียทีเดียว เพราะโปรแกรม Salesforce นั้น ทำงานบนระบบ Cloud 100% ซึ่งไม่มีการรองรับการใช้งานแบบ On-Premise ซึ่งในส่วนนี้สะดวกต่อการใช้งานทุกที่ทุกเวลา แต่อาจเป็นข้อจำกัดของธุรกิจที่มีข้อจำกัดในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือต้องการควบคุมข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเอง
ประโยชน์ของการใช้ Salesforce
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้งาน Salesforce
ทีมงานที่มีส่วนร่วมในการใช้งานโปรแกรม Salesforce สามารถเข้าใช้งานโปรแกรมในระบบเดียวกัน โดยไม่ต้องสลับการใช้งานหลาย ๆ โปรแกรม ทีมงานแต่ละคนสามารถอัปเดตข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งโปรแกรมยังช่วยในการประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่บนระบบได้อัตโนมัติ มองเห็นภาพรวมใหญ่ ๆ ของกระบวนการทำงานได้ชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น
2. ลดระยะเวลาการทำงาน เพิ่มโอกาสปิดดีลการขาย
- Salesforce สามาถติดตามขั้นตอนการขายในแต่ละ Step ได้ และรายงานผลแต่ละกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่อย่างละเอียด เช่น มีการดำเนินการขายไปถึงขั้นตอนไหน มีการติดต่อกับลูกค้าไปแล้วหรือยัง
- สามารถตั้งเป้าหมายงานในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ว่าจะต้องเป็นไปไหนทิศทางไหน ดำเนินการอย่างไรบ้าง หรือเวลาใด พร้อมทั้งระบบแจ้งเตือนที่สามารถติดต่อลูกค้าได้ตามนัดหมาย
- สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสการปิดดีลการขายได้มากขึ้น
- หากมีการติดต่อลูกค้าไปแล้วระยะเวลานาน 1 สัปดาห์ 1 เดือน เมื่อกลับเข้ามาในระบบก็ยังคงสามารถดูกิจกรรมที่เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้ได้ พร้อมทั้งดำเนินการต่อจากเดิมได้ทันที
3. ปรับแต่ง Workflow เพิ่มสะดวกต่อการใช้งาน
Salesforce สามารถปรับแต่ง Workflow การทำงาน และ Dashboard ให้สอดคล้องกับการทำงานของแต่ละองค์กร หรือทีมได้ตามต้องการ
Salesforce ใช้ทำอะไรช่วยอะไรแบรนด์บ้าง?
จากผลสำรวจของ Salesforce พบว่า 64% ของเวลาที่ใช้ในงานขายถูกใช้ไปกับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายโดยตรง ดังนั้นเมื่อมี Salesforce เข้ามา ทำให้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ดังนี้
1. การบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
การทำงานของทีมขายจะมีการสลับไปมาระหว่างโปรแกรมและการทำงานที่แยกกันทำให้มีความสับสนและยากต่อการทำงาน และอาจเกิดความผิดพลาดในการทำงานได้
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
Salesforce ช่วยให้ทีมงานสามารถบันทึกข้อมูลลูกค้าและกิจกรรมทั้งหมดในระบบเดียว ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ทีมขายสามารถโฟกัสกิจกรรมงานขายได้มากขึ้น และการเปิด-ปิดการขายได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
2. การจัดการทีมงานและการสร้างข้อมูลรายงาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
ความยุ่งยากในการส่งต่องานของทีมขาย เพราะบางทีเมื่อดำเนินธุรกิจไปสักระยะหนึ่ง ทีมงานในทีมขายบางคนอาจมีการย้ายทีมและอาจนำแฟ้มข้อมูล เอกสารเกี่ยวกับลูกค้าติดไปด้วย หรือข้อมูลลูกค้าสูญหาย เมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามารับงานต่อ ทำให้เกิดอุปสรรคในการส่งต่องานหรือการสื่อสาร
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
ซึ่ง Salesforce จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุด ช่วยให้ทีมสามารถดำเนินกิจกรรมทั้งหมดในระบบเดียว โอนย้ายสิทธิ์และสร้างข้อมูลรายงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมงานสามารถทำงานได้ทุกที่ หากมีการโยกย้าย เปลี่ยนทีม การส่งต่องานก็เป็นเรื่องง่ายเพราะอัปเดตหรือดูข้อมูลเก่า ๆ ได้ทันที
3. การขยายขนาดทีมงาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
ปัจจุบันธุรกิจอาจอยู่ใน Scale ระดับกลาง แต่ในอนาคตหากธุรกิจมีการเติบโต การทำงานในรูปแบบเก่าหรือระบบเดิมที่ไม่รองรับการทำงานในธุรกิจที่เติบโตขึ้น อาจเกิดอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งทำให้สูญเสียเวลาและทรัพยากรที่สำคัญขององค์กร
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
Salesforce สามารถ Scale ทีมแล้วก็จัดในรูปแบบ Organization charts เพื่อรองรับการขยายทีมในอนาคตได้ และสะดวกต่อผู้ใช้งาน
4. การนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ผล
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
เมื่อผู้บริหารต้องการดู Report and Dashboard ทีมงานก็ต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ผ่านทาง Excel หรือคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขเอง ทำให้ต้องใช้เวลาในการรวบรวบข้อมูลหรือการวิเคราะห์
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
Salesforce ข้อมูลที่มีอยู่ในระบบจะอยู่ในรูปแบบเรียลไทม์ อีกทั้งโปรแกรมยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลออกมานำเสนอในรูปแบบ Visualize Data ได้อัตโนมัติ สะดวกต่อการดูข้อมูลและลดระยะเวลาการทำงานของทีมงานอีกด้วย
5. การทำงานที่ทันสมัย
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
เดิมทีการใส่ข้อมูลลูกค้าของทีมขาย คือ การที่ทีมขายต้องกลับไปกรอกข้อมูลที่บริษัทบนระบบ
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
โปรแกรม Salesforce นั้น Base On cloud 100% ทำให้ทีมงานสามารถทำงานได้เรียลไทม์ บนอุปกรณ์ใดก็ได้ และยังสามารถดำเนินกิจกรรมการติดต่อลูกค้าผ่าน Smart Phone ทั้งการเข้าใช้งานผ่านบน Website และบน Application
6. การปรับแต่ง Workflow
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมขาย
เดิมทีหากมีการเปลี่ยนระบบการทำงาน ทีมงานแต่ละคนต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ระบบนาน เพราะผู้ใช้งานต้องปรับตัวเข้าหาระบบทั้งหมด
Salesforce ช่วยอะไรได้บ้าง?
แต่หากเป็นโปรแกรม Salesforce นั้นเป็น Platform on cloud ที่สามารถก configure and customize ให้ตรงกับรูปแบบการจัดเก็บของข้อมูลลูกค้าและรูปแบบกระบวนการการดำเนินการกิจกรรมของลูกค้าได้ ทำให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกในการใช้งานระบบ
การทำงานของ Salesforce เป็นอย่างไร?
Salesforce เป็น Platform CRM ที่มีฟีเจอร์ช่วยให้ทำงานได้ครบวงจร ดังนี้
หน้าโฮมแบบ Personalized
Salesforce นำเสนอหน้าโฮมแบบ Personalized ที่แสดงข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคน ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าในแต่ละวันต้องทำอะไร เตรียมแผนอะไรในอนาคต และติดตามงานที่ล่าช้า
การจัดการ Pipeline
Salesforce แสดงขั้นตอนการขาย (Pipeline) ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปิดการขาย ผู้ใช้สามารถปรับแต่งขั้นตอนให้ตรงกับ Workflow ของแต่ละทีม ซึ่ง Pipeline ช่วยให้
- ดูภาพรวมของกิจกรรมลูกค้าในแต่ละขั้นตอน
- ประเมินมูลค่าของ Project ในแต่ละขั้นตอน
- ดูแนวโน้มความสำเร็จของการขาย
การติดตามกิจกรรม
ผู้ใช้สามารถ Tagging กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้า เช่น อีเมล บันทึกการโทร นัดหมายได้ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสการปิดการขายได้มากขึ้นกว่าเดิม
การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลบน Salesforce สามารถเอามาประมวลผลต่อในรูปแบบเป็น Salesflow Guessing เปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขายที่คาดการณ์ ทำให้ทั้งทีมก็จะเห็นเป็นภาพรวมใหญ่พร้อมกันแบบเรียลไทม์
การแสดงผลแบบ Dashboard
Salesforce แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถแสดงข้อมูลแบบรายบุคคล รายทีม อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ เพื่อนำไปต่อยอดได้อีกด้วย
การทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ
Salesforce สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น อีเมล (Gmail, Outlook) แผนที่ (Salesforce Maps) โดย Salesforce มีฟังก์ชันที่สามารถเช็คอิน เช็คเอ้าท์ และ Tagging กิจกรรมของทีมงานแต่ละบุคคลผ่านการกดเช็คอิน Location based อีกทั้งหากใช้ Salesforce maps ร่วมด้วยจะสามารถ Sales planning ผ่านแผนที่ทำได้โดยการกำหนดขอบเขตที่ต้องการไป โดยโปรแกรม Salesforce จะประมวลผลการเดินทางเส้นทางให้ว่าจะต้องเดินทางไปที่ไหนก่อน โดยฟังก์ชันของ Salesforce สามารถปลั๊กอินกับ Google Gmail หรือ Microsoft Outlook เพื่อให้ Integrate ร่วมกัน และสามารถติดตามกิจกรรรมการส่งอีเมลติดต่อลูกค้าได้
ค่าใช้จ่ายของ Salesforce
ค่าใช้จ่ายของ Salesforce แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก
ส่วนแรก คือ ค่า License
โดยคิดเป็นรายผู้ใช้งาน (Per User)
ส่วนที่สอง คือ ค่า Implement
ค่าใช้จ่ายในการปรับแต่งโปรแกรมให้เหมาะกับธุรกิจนั้น ๆ ติดต่อ Quick ERP
Salesforce เหมาะกับองค์กรแบบไหน?
Salesforce เหมาะกับองค์กรทุกประเภท เพราะทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีลูกค้าเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไป โดยองค์กรที่มีทีมขาย การตลาด รวมถึงทีมบริการ Salesforce ก็จะมีบทบาทในการเข้าไปช่วยแต่ละทีมได้ ดังนี้
การขายและการตลาด
Salesforce ช่วยติดตามและจัดการข้อมูลลูกค้า สามารถนำข้อมูลมาต่อยอดได้ อีกทั้งยังประมวลผลข้อมูลการขาย เพิ่มโอกาสการขายและการปิดดีล พร้อมวางแผนการตลาด ด้วยการประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่ของโปรแกรม
บริการลูกค้า
Salesforce ช่วยทีมบริการลูกค้าจัดการปัญหาลูกค้า ติดตามทิศทางในการแก้ปัญหา ทำให้การบริการลูกค้ามีประสิทธิภาพ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
ก้าวเข้าสู่ Digital Business
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่
