ERP คืออะไร ?
ERP โปรแกรม คือ “ระบบการวางแผนทรัพยากรในองค์กร” ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning เป็นระบบที่เข้ามาช่วยจัดการภาพรวม ขององค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุด
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
ERP ทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร ?
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ด้วยความสามารถของ ERP ที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อข้อมูลของทุกฝ่ายเข้าไว้ด้วยกันในระบบเดียวอย่างเป็นอัตโนมัติ จึงทำให้การเรียกใช้ข้อมูลจากฝ่ายต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้ง่าย ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบกระบวนการและควบคุมมาตรฐานการทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
2. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ระบบ ERP สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และรายงานผลได้เรียลไทม์และแม่นยำ นำข้อมูลมาต่อยอดในการวางแผนทางธุรกิจ ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ลดระยะเวลา เพิ่มผลผลิต
ระบบ ERP นั้นสามารถบริหารจัดการองค์กรให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการรวมข้อมูลไว้ในระบบเดียว ทำให้ง่ายต่อการเรียกใช้ข้อมูล ลดระยะเวลาการประสานงานและการส่งต่อข้อมูล พนักงานสามารถจัด Priority ของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต สร้างโอกาสการเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
4. ประหยัดต้นทุน
การรวมศูนย์ข้อมูลไว้ในที่เดียวของระบบ ERP ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ ROI ด้านผลิตได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดที่นำมาซึ่งการสูญเสียต้นทุนในอนาคต อีกทั้งความพร้อมของระบบที่รองรับการขยายการเติบโตขององค์กร ทำให้หมดกังวลเรื่องการโยกย้ายระบบไปมา และการปรับตัวเข้ากับระบบใหม่อยู่ตลอดเมื่อองค์กรขยายตัว
วิวัฒนาการ ERP
เดิมที ERP มีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาของ MRP ซึ่งเป็นระบบที่ถูกพัฒนามาเพื่อวางแผนทรัพยากรการผลิต และถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ โดยมีศักยภาพในการทำงานที่ดีกว่าเดิมระดับหนึ่ง และในช่วง ค.ศ. 1990 ได้ถือกำเนิดแนวคิด ERP อย่างเป็นทางการ และเรียกได้ว่าเป็นเหมือนยุคทองของ ERP ก็ว่าได้ เพราะในตอนนั้น ERP เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจมากขึ้น แต่ยังมีข้อจำกัดในส่วนของราคาและความซับซ้อนในการรองรับความต้องการในการปรับแต่งที่ยังไม่ครอบคลุมมากนัก จนในช่วงศตวรรษที่ 21 องค์กรหลายองค์กรเริ่มมองหาโซลูชันที่คุ้มค่าและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้มีการเข้ามาของโซลูชัน ERP บนคลาวด์ ที่สามารถสนับสนุนและรองรับการทำงานทุกรูปแบบ ทุกที่ทุกเวลา ได้เรียลไทม์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
ทำไม ERP ยุคเก่าใช้งานไม่ได้ในปัจจุบัน ?
- 1. ล้าสมัย
ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด การเชื่อมต่อระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับระบบ ERP แบบเดิมอาจทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก
- 2. ไม่ยืดหยุ่น
ระบบ ERP แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากองค์กรหลายองค์กรมีวิถีการทำงานแบบใหม่ เช่น การทำงานแบบ Work From Home ดังนั้นผู้ใช้งานจึงต้องการระบบที่สามารถอัปเดตข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เรียกใช้และเข้าถึงข้อมูลได้ทันที แต่ระบบ ERP แบบเดิมอาจไม่รองรับความต้องการเหล่านั้นได้
- 3. ความคุ้มค่าในการใช้งาน
ด้วยข้อจำกัดของระบบ ERP แบบเดิมที่มีราคาสูง แต่ไม่รองรับความต้องการขององค์กรได้อย่างครอบคลุม ทำให้บุคลากรไม่สามารถใช้งานระบบได้อย่างเต็มศักยภาพ
ความได้เปรียบจากการใช้ Modern ERP ที่ ERP ยุคเก่าไม่มี
- 1. ประสิทธิภาพการรายงานข้อมูล
ระบบ ERP สมัยใหม่มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ ประมวลผล และรายงานข้อมูลที่แม่นยำและทรงพลังกว่า อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุม พร้อมสร้างรายงานเพื่อนำมาใช้ต่อยอดได้ทันที
- 2. ความง่ายในการเข้าถึงข้อมูล
Modern ERP สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่าง่ายดาย อัปเดตข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ ลดระยะเวลาในการกรอกข้อมูล ประสานงาน และการส่งต่อข้อมูลระหว่างฝ่าย
- 3. โอกาสในการเติบโต
เนื่องจาก Modern ERP มีความยืดหยุ่นสูง รองรับทุกการเติบโตขององค์กรทุกขนาด ทำให้ไม่ว่าองค์กรของคุณจะเติบโตไปในทิศทางไหน เช่น การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้งาน การขยายตลาดใหม่ เป็นต้น
- 4. ความปลอดภัย
มาตรการความปลอดภัยในระบบ ERP สมัยใหม่มักจะมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล Blockchian เป็นต้น
- 5. User experience
เนื่องจากระบบ ERP สมัยใหม่มีการออกแบบ Interface ที่ไม่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งานได้มากกว่า
- 6. ความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ด้วยความทันสมัยของระบบ Modern ERP ทำให้สามารถรองรับการทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถง่ายต่อการรวมระบบเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างคล่องตัว เช่น IoT, Machine Learning, Data Analytics, AI และอื่น ๆ เพื่อให้การทำงานของผู้ใช้งานเป็นอัตโนมัติ สอดคล้องกับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สร้างความได้เปรียบ โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
- 7. การลงทุนที่คุ้มค่า
การลงทุนในระบบ ERP ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์กร เพราะไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP เก่าหรือใหม่ล้วนมีมูลค่าในการลงทุนสูงไม่แพ้กัน แต่ความคุ้มค่าในการลงทุนนั้นไม่เท่ากัน เพราะ Modern ERP นั้นสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและรายงานผลได้แบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรสามารถทราบข้อมูลเชิงลึกได้ตลอดเวลา นำข้อมูลไปต่อยอด วางแผนและเพิ่มโอกาสในการขายได้แม่นยำ สร้างผลตอบแทนให้กับองค์กรได้เร็วกว่า คุ้มค่ามากกว่า
ERP ยุคเก่า VS ยุคใหม่ แตกต่างกันอย่างไร (ตารางเปรียบเทียบ)
หมวดหมู่ | ERP ยุคเก่า | ERP ยุคใหม่ |
---|---|---|
เทคโนโลยี | ติดตั้ง Server ภายในองค์กร | เลือกการติดตั้งได้ตามความต้องการทั้งแบบ On-Cloud และ On-Premises |
ความยืดหยุ่น | ใช้ระยะเวลาในการปรับแต่งระบบ | การปรับแต่งระบบมีความสะดวกขึ้น ใช้งานผ่าน Interface ได้รวดเร็วขึ้น |
ความปลอดภัย | ป้องกันความปลอดภัยทางข้อมูลแบบพื้นฐาน | การเข้าถึงและการจัดเก็บข้อมูลมีมาตรการความปลอดภัยสูง |
การเข้าถึงข้อมูล | ถูกจำกัดให้ดำเนินการเฉพาะภายในองค์กรเท่านั้น | เข้าถึงและอัปเดตข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ |
การรายงานข้อมูล | ต้องใช้ระยะเวลาในการประสานงาน | สามารถวิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลได้ทันที |
- 1. เทคโนโลยี
ERP ยุคเก่า จำเป็นต้องติดตั้ง Server ภายในองค์กร
ERP ยุคใหม่ สามารถเลือกการติดตั้งการใช้งานระบบได้ตามความต้องการขององค์กรทั้งแบบ On-Cloud และ On-Premises อีกทั้งยังรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อีกด้วย
- 2. ความยืดหยุ่น
ERP ยุคเก่า อาจต้องใช้ระยะเวลาในการปรับแต่งระบบให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร
ERP ยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้การปรับแต่งระบบมีความสะดวกขึ้น ใช้งานผ่าน Interface ได้รวดเร็วขึ้น
- 3. ความปลอดภัย
ERP ยุคเก่า มีการป้องกันความปลอดภัยทางข้อมูลแบบพื้นฐาน ซึ่งอาจไม่เพียงพอในบางกรณี
ERP ยุคใหม่ เนื่องจากมีการพัฒนาระบบความปลอดภัยขั้นสูงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเข้าถึงและการจัดเก็บข้อมูลมีมาตรการความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
- 4. การเข้าถึงข้อมูล
ERP ยุคเก่า การเข้าถึงข้อมูลหรือการอัปเดตข้อมูลถูกจำกัดให้ดำเนินการเฉพาะภายในองค์กรเท่านั้น
ERP ยุคใหม่ หากเป็นผู้ใช้งานที่ได้รับอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลก็สามารถเข้าถึงและอัปเดตข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ ทำให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงาน
- 5. วิเคราะห์และรายงานข้อมูล
ERP ยุคเก่า ต้องใช้ระยะเวลาในการประสานงานเพื่อรวบรวมข้อมูลจากแต่ละฝ่าย เพื่อนำมาวิเคราะห์และรายงานข้อมูลเชิงลึก
ERP ยุคใหม่ การวิเคราะห์และรายงานข้อมูลเชิงลึกไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป เพราะในระบบ ERP รวบรวมและอัปเดตข้อมูลของแต่ละฝ่ายภายในองค์กรไว้ในระบบเดียวแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลได้ทันที พร้อมรายงานผลข้อมูลและนำไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปส่งท้าย
และทั้งหมดนี้คือความแตกต่างระหว่าง ERP ยุคเก่า และ ERP ยุคใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่าระบบ ERP ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมาตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้งานในหลาย ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การเลือกระบบ ERP ที่คุ้มค่าของแต่ละองค์กรอาจมีปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นองค์กรควรเลือกระบบที่สอดคล้องและเหมาะสมกับองค์กรนั้น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับระบบ ERP ติดต่อ Quick
ก้าวเข้าสู่ Industry 4.0
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่