Digital Transformation กระบวนการพลิกโฉมหน้าทุกธุรกิจบนโลกใบนี้

คุณคงเคยได้พบหรือได้ยินคำว่า “Digital Transformation” แต่คุณรู้ความหมายของคำ ๆ นี้หรือไม่ ? หากยังไม่รู้อ่านบทความนี้ให้จบ แล้วคุณจะรู้ลึกขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
Digital Transformation
ทางลัด: เลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่อยากรู้

Digital Transformation คืออะไร ?

หลังจากผ่านวิกฤต Covid-19 ที่ผ่านมาไม่นานนี้ คำว่า “Digital Transformation” ก็กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก ทั้งการถูกพูดถึงในแวดวงธุรกิจ ตลอดไปจนถึงการแชร์ในโลกออนไลน์ อาจทำให้หลายคนคุ้นเคยกับคำนี้มากพอสมควร แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำ ๆ นี้ได้ รวมไปถึงรับรู้ถึงความสำคัญของการกระบวนการนี้ ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเป็นผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลก แนะนำว่าต้องอ่านบทความนี้ทุกบรรทัด!

Digital Transformation เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำอะไรเดิม ๆ ให้มีรูปแบบที่พัฒนาตามกระแสโลกมากยิ่งขึ้น ความหมายนั้นมีค่อนข้างกว้าง แต่ให้สรุปง่าย ๆ ในทิศทางที่เกี่ยวกับธุรกิจมากที่สุดก็คือ “การนำเอานวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ” ซึ่งนับว่าเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก บริษัทใหญ่ ๆ ทุกบริษัทต่างก็นำเอากระบวนนี้มาปรับใช้ในธุรกิจแล้วทั้งสิ้น รวมไปถึงเหล่า Start-Up ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจหลัก เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่สู่ผู้ใช้งานในวงกว้าง

ความสำคัญของ Digital Transformation กับธุรกิจในยุคปัจจุบัน

หากถามถึงความสำคัญของการนำ Digital Transformation เข้ามาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของการ “ปรับตัวตามกระแสโลก” หลังจากผ่านยุคที่มนุษย์เริ่มมีเวลากับตัวเองมากขึ้น ในช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19 การเข้าถึงเทคโนโลยีเริ่มเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น สถานที่ทำงานในหลาย ๆ สถานที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการทำงานแบบ New normal รวมไปถึงพฤติกรรมของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

มีหนึ่งคำที่ถูกใช้ในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลายคือคำว่า “โลกหมุนไว” ซึ่งนั่นทำให้ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวตามกระแสของโลก มักจะถูกกระแสใหม่ ๆ กลืนกินจนที่สุดก็หายไปตามกาลเวลา การว่ายทวนกระแสโลกเป็นตัวเลือกที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ในการทำธุรกิจ ดังนั้นหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง อย่าลืมลองนำกระบวนการ Digital Transformation มาใช้ในธุรกิจของคุณนะครับ

ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้ Digital Transformation ในธุรกิจ

การจะนำเอากระบวนการ Digital Transformation มาปรับใช้ในธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มีกระบวนการที่จะต้องวางแผนเป็นอย่างดีพอสมควร ในธุรกิจที่มีรากฐานธุรกิจแบบเดิมไปแล้ว ค่อนข้างจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่าองค์กรใหม่ ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจมากพอสมควร โดยขั้นตอนการดำเนินการแบบคร่าว ๆ สามารถนำเอาขั้นตอนดังต่อไปนี้ ไปปรับใช้ได้ให้ตรงตามจุดประสงค์ขององค์ก็ได้เลยครับ

  1. ต้องมีวัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลง สำหรับธุรกิจที่กำลังปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยโดยการนำเอากระบวนการ Digital Transformation มาใช้ ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น ปรับใช้เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่าของลูกค้า หรือ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจ เป็นต้น
  2. ประเมินพื้นฐานทางดิจิทัลขององค์กร ในขั้นตอนนี้เป็นประเมินโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลขององค์กร ทั้ง ทักษะการใช้งานของบุคลากร เทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในตอนนี้ พร้อมมองหาจุดที่ต้องแก้ไข จัดลำดับความสำคัญตามผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ
  3. สร้างกลยุทธ์ทางดิจิทัล ระหว่างการนำเอากระบวนการ Digital Transformation เข้ามาใช้ในองค์กร ควรต้องมีกลยุทธ์ที่รองรับการเปลี่ยนแปลง โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เดิมของธุรกิจ นำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามีส่วนร่วมให้มากยิ่งขึ้น
  4. มองหาบุคลากรที่มีความสามารถ การดำเนินการตามกระบวนการ Digital Transformation จำเป็นที่จะต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะทาง ในส่วนนี้จำเป็นต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีที่คุณต้องการเข้ามาในองค์กร พร้อมจัดการอบรมให้บุคลากรคนอื่น ๆ มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
  5. ประเมินผลเป็นประจำ ตรวจสอบความก้าวหน้าของการนำเอากระบวนการ Digital Transformation มาปรับใช้ ทั้งในด้านของการดำเนินงานภายในองค์กร ไปจนถึงความพึงพอใจของลูกค้าว่ามีไปในทิศทางใด และจะต้องตั้งเป้าการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้ทุกอย่างจะดีอยู่แล้ว ก็ควรพัฒนาต่อไป เพื่อให้ไม่ล้าหลังตามกระแสของโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน

ตัวอย่างของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการทำ Digital Transformation

ตามที่เราได้เกริ่นไปในช่วงต้นของบทความ ว่ามีองค์กรขนาดใหญ่ในโลกได้นำเอาแนวความคิด Digital Transformation ไปปรับใช้ภายในองค์กรแล้วประสบความสำเร็จ โดยต่อจากนี้จะเป็นตัวอย่างขององค์กรที่ได้รับการยอมรับว่ามีการนำเอาเทคโนโลยี มาปรับใช้ในธุรกิจได้เป็นอย่างดี จนได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก

  • Netflix

ก่อนการนำเอา Digital Transformation เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ Netflix เป็นเพียง “ธุรกิจให้เช่า DVD” เพียงเท่านั้น ชื่อของแพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดังนี้เพิ่งเป็นที่รู้จักในระยะเวลาเพียงประมาณ 10 ปีเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วธุรกิจนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1997 เมื่อ Netflix ได้ปรับเปลี่ยนทิศทางของธุรกิจเข้าสู่เส้นทางดิจิทัล เปลี่ยนจากการให้เช่าแผ่น DVD เปลี่ยนมาเป็นสื่อความบันเทิงรูปแบบใหม่ ที่สามารถรับชมได้ผ่านทางแพลตฟอร์มดิจิทัล ก็ทำให้เป็นปรากฏการณ์พลิกโฉมหน้าวงการสื่อบันเทิงในระดับโลก จนทำให้เกิดแพลตฟอร์มคล้าย ๆ กันขึ้นมามากมายในทุกวันนี้

  • Spotify

แพลตฟอร์มการฟังเพลงในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทาง แต่หากให้หยิบยกเอาแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ชื่อของ Spotify คงเป็นอันดับแรก ๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน โดยธุรกิจนี้เป็นการนำเอากระบวนการ Digital Transformation มาปรับใช้อย่างเต็มรูปแบบ Spotify เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในปี 2006 จาก 2 คู่หูต่างวัยชาวสวีเดน เติบโตอย่างรวดเร็วจนตอนนี้มีสมาชิกกว่า 300 ล้านคนจากทั่วโลก ซึ่งนอกจากบริการเกี่ยวกับการสตรีมมิงเพลงแล้ว ยังมี Podcast ดี ๆ ที่สามารถฟังด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัด ถูกลิขสิทธิ์ พร้อมกับจัดเพลย์ลิสต์เพลงที่ชอบเอาไว้ให้ตนเองได้อีกด้วย

  • Tesla

ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เริ่มมีการนำเอากระบวนการ Digital Transformation เข้ามาเพื่อพลิกโฉมรูปแบบของรถยนต์ที่เราใช้กันทุกวันให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าหากให้นึกถึงรถที่ทันสมัยมากที่สุด คงไม่มียี่ห้อไหนที่มาแรงไปมากกว่า “Tesla” อีกแล้ว โดยสินค้าที่พลิกวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกคือ รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับฟังก์ชันสุดพิเศษอีกมากมาย ทั้งความคงทน ระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ อีกมากมาย

Digital Transformation ในองค์กรขนาดใหญ่ และ เล็ก ต่างกันอย่างไรบ้าง

ในการปรับเอากระบวนการ Digital Transformation เข้ามาปรับใช้ภายในองค์กรนั้น ขนาดขององค์กรก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นองค์กรขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นนำเอาแนวคิดนี้มาใช้ จะมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายมากกว่า เนื่องจากมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เข้ามามีส่วน ยกตัวอย่างเช่น

  • โครงสร้างขององค์กร ยิ่งเป็นโครงสร้างขององค์กรที่มีมานานเท่าไหร่ มีขนาดโครงสร้างที่ใหญ่เท่าไหร่ การปรับเปลี่ยนก็จะมีความยุ่งยากมากไปเท่านั้น
  • วัฒนธรรมภายในองค์กร ภายในองค์กรขนาดใหญ่ มักมีบุคลากรที่มีอายุมากแล้ว และบางคนมีแนวคิดต่อต้านการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ทำให้พวกเขาไม่พอใจสักเท่าไหร่
  • ฐานลูกค้า ในองค์กรขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานานแล้ว หากต้องการ Digital Transformation อาจมีความกังวลสูงเป็นพิเศษ เพราะการเปลี่ยนแปลงเปรียบเสมือนเหรียญ 2 หน้า อาจทำให้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ และอาจทำให้สูญเสียกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมไปได้

การจัดการข้อมูลใน Digital Transformation มีแนวคิดและเครื่องมือสำคัญอะไรบ้าง ?

สิ่งสำคัญของการนำเอาธุรกิจเข้ากระบวนการ Digital Transformation คือ “การจัดการข้อมูล” เนื่องจากข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญของการดำเนินธุรกิจในตอนนี้ คุณจะต้องเลือกข้อมูลที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และจะต้องกำหนดดูแลข้อมูลต่าง ๆ ภายในองค์กรเป็นอย่างดี โดยในส่วนนี้การเลือกใช้เครื่องมือก็เป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากเครื่องมือทางด้านดิจิทัลมีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับองค์กรให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือสำหรับบัญชี , เครื่องมือสำหรับการประมวลผล , เครื่องมือสำหรับการนำเสนอข้อมูล และ เครื่องมือสำหรับการจัดการทรัพยากรภายในองค์กร เป็นต้น

สรุป

หากไม่อยากถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังโลกที่หมุนไวเช่นนี้ การทำ Digital Transformation สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณพลิกโฉมหน้าจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหาร การจัดการ รวมไปถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะต้องสอดคล้องกัน แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ท้าทาย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เกือบทุกวัน แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเผชิญ หากคุณต้องการพัฒนาให้ธุรกิจให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง มีความยั่งยืน ไม่ถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง อย่าลืมหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวดิจิทัลเข้ามาเสริมความรู้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโลกในตอนนี้หมุนไวมาก การมีความรู้ที่สดใหม่ ย่อมดีกว่าการอยู่รั้งท้ายคนอื่นอย่างแน่นอน

Table of Content