หลายคนมักเข้าใจผิดว่า Microsoft 365 และ Microsoft Office เป็นโปรแกรมเดียวกันที่เพียงแค่เรียกชื่อต่างกัน แต่ในความจริงแล้ว ทั้งสองมีความแตกต่างที่สำคัญและน่าสนใจมากมาย ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์ รูปแบบการใช้งาน และการชำระเงิน ซึ่งหากคุณยังไม่แน่ใจว่าตัวไหนเหมาะกับคุณมากกว่า บทความนี้จะช่วยคลายความสับสน และอธิบายอย่างละเอียดว่าทั้งสองโปรแกรมนี้แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้งานได้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
Microsoft 365 คืออะไร?
Microsoft 365 เป็นบริการที่ครอบคลุมทั้งซอฟต์แวร์และการทำงานบนคลาวด์ โดยคุณสามารถสมัครใช้งานในรูปแบบสมาชิกที่มีทั้งรายเดือนและรายปี ในแพ็กเกจนี้ คุณจะได้ใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในตระกูล Office เช่น Word, Excel, PowerPoint รวมถึงแอปพลิเคชันที่ทันสมัยและเหมาะกับการทำงานในยุคดิจิทัล เช่น OneDrive สำหรับการเก็บไฟล์ออนไลน์ และ Microsoft Teams สำหรับการประชุมและสื่อสารแบบทีม
สิ่งที่ทำให้ Microsoft 365 โดดเด่นคือการที่มันอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเวอร์ชันล้าหลัง เพราะทุกอย่างจะถูกปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่ตลอด
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
Microsoft Office คืออะไร?
ในทางกลับกัน Microsoft Office ที่หลายคนรู้จักนั้น คือซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิมที่คุณซื้อครั้งเดียวและติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ โปรแกรมพื้นฐานที่คุณคุ้นเคยอย่าง Word, Excel, และ PowerPoint ก็อยู่ในชุดนี้เช่นกัน ข้อดีของ Microsoft Office คือคุณจ่ายเพียงครั้งเดียว แต่คุณจะไม่ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ นั่นหมายความว่าหากมีฟีเจอร์ใหม่ออกมา คุณจะต้องซื้อเวอร์ชันใหม่หรืออัปเกรดในอนาคต
Microsoft Office vs Microsoft 365 ต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจเคยสงสัยระหว่าง Microsoft Office และ Microsoft 365 ว่าแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อันไหนดี ในบทความนี้เราจะมาดูข้อแตกต่างที่สำคัญเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ค่าใช้จ่าย
Microsoft Office: จ่ายเพียงครั้งเดียว และใช้ได้ตลอด ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมหลังจากนั้น เหมาะกับคนที่ต้องการจ่ายครั้งเดียวจบ
Microsoft 365: ต้องจ่ายแบบสมัครสมาชิก ซึ่งมีตัวเลือกทั้งรายเดือนและรายปี การสมัครสมาชิกทำให้คุณได้รับอัปเดตใหม่ ๆ และฟีเจอร์เสริมอยู่เสมอ
อุปกรณ์ที่รองรับ
Microsoft Office: ใช้ได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น ติดตั้งบน PC หรือ Mac อย่างใดอย่างหนึ่ง หากเปลี่ยนเครื่องจะต้องซื้อใหม่
Microsoft 365: ใช้ได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ ทั้ง PC, Mac, Tablet และมือถือ จึงสะดวกสำหรับคนที่มีหลายอุปกรณ์และต้องการใช้งานต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา
การอัปเดตและความปลอดภัย
Microsoft Office: ได้รับการอัปเดตเฉพาะในช่วง 4 ปีแรก ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มหลังจากนั้น
Microsoft 365: ได้รับการอัปเดตทั้งฟีเจอร์ใหม่และการอัปเดตด้านความปลอดภัยตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าโปรแกรมจะล้าสมัย
การจัดเก็บข้อมูล
Microsoft Office: ไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ คุณจะต้องจัดการข้อมูลของคุณเองบนอุปกรณ์ที่ติดตั้ง
Microsoft 365: มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ 1 TB ต่อผู้ใช้งาน ผ่าน OneDrive ทำให้คุณสามารถสำรองข้อมูล แชร์ไฟล์ และเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่
ตารางเปรียบเทียบ
หัวข้อ | Microsoft Office | Microsoft 365 |
---|---|---|
ค่าใช้จ่าย | จ่ายครั้งเดียว ใช้ได้ตลอด ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม | จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี ได้รับอัปเดตเสมอ |
อุปกรณ์ที่รองรับ | ใช้ได้เพียง 1 เครื่อง (PC หรือ Mac) | ใช้ได้สูงสุด 5 อุปกรณ์ (PC, Mac, Tablet, มือถือ) |
การอัปเดตและความปลอดภัย | อัปเดตเฉพาะในช่วง 4 ปีแรก ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ | อัปเดตฟีเจอร์ใหม่และความปลอดภัยตลอดเวลา |
การจัดเก็บข้อมูล | ไม่มีคลาวด์ ต้องจัดการข้อมูลเองบนอุปกรณ์ | มีพื้นที่คลาวด์ 1 TB ต่อผู้ใช้ ผ่าน OneDrive |
การใช้งานแอปพลิเคชัน (ตารางเปรียบเทียบ)
แอปพลิเคชันที่มีใน Microsoft 365 และ Microsoft Office มีความแตกต่างกันในด้านจำนวนและความสามารถเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของแอปพลิเคชันเสริมที่มาพร้อมกับ Microsoft 365 ซึ่งมากกว่าแอปพลิเคชันพื้นฐานใน Microsoft Office
แอปพลิเคชันใน Microsoft 365
Microsoft 365 ให้บริการแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชันพื้นฐานและแอปพลิเคชันเสริมที่สามารถใช้ได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ดังนี้:
- Word – โปรแกรมสำหรับงานเอกสาร
- Excel – โปรแกรมสำหรับงานสเปรดชีต
- PowerPoint – โปรแกรมสำหรับการสร้างงานนำเสนอ
- Outlook – โปรแกรมสำหรับการจัดการอีเมล ปฏิทิน และผู้ติดต่อ
- OneNote – แอปสำหรับการจดบันทึก
- Access – โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล (เฉพาะบนพีซี)
- Publisher – โปรแกรมสำหรับการออกแบบสิ่งพิมพ์ (เฉพาะบนพีซี)
- Microsoft Teams – แอปสำหรับการประชุมและการสื่อสารทางธุรกิจ
- OneDrive – พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (ให้พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB)
- SharePoint – แพลตฟอร์มการจัดการเนื้อหาและการทำงานร่วมกัน
- Yammer – เครือข่ายสังคมภายในองค์กร
- Power Automate – เครื่องมือสำหรับการสร้างระบบอัตโนมัติในการทำงาน
- Power Apps – เครื่องมือสำหรับสร้างแอปพลิเคชันธุรกิจแบบไม่ต้องเขียนโค้ด
- Planner – เครื่องมือสำหรับการวางแผนและติดตามงาน
- To Do – แอปสำหรับการจัดการงานประจำวัน
- Microsoft Forms – แอปสำหรับการสร้างแบบฟอร์มและการสำรวจ
- Bookings – แอปสำหรับการจัดการการนัดหมาย
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
แอปพลิเคชันใน Microsoft Office (One-Time Purchase)
ใน Microsoft Office แบบซื้อครั้งเดียว ผู้ใช้จะได้รับแอปพลิเคชันพื้นฐานที่เน้นไปที่การทำงานทั่วไป ได้แก่:
Word – โปรแกรมสำหรับงานเอกสาร
Excel – โปรแกรมสำหรับงานสเปรดชีต
PowerPoint – โปรแกรมสำหรับการสร้างงานนำเสนอ
Outlook – โปรแกรมสำหรับการจัดการอีเมล ปฏิทิน และผู้ติดต่อ
OneNote – แอปสำหรับการจดบันทึก
Access (เฉพาะบนพีซี) – โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
Publisher (เฉพาะบนพีซี) – โปรแกรมสำหรับการออกแบบสิ่งพิมพ์
แอปพลิเคชัน | Microsoft 365 | Microsoft Office (One-Time Purchase) |
---|---|---|
Word | ✔ | ✔ |
Excel | ✔ | ✔ |
PowerPoint | ✔ | ✔ |
Outlook | ✔ | ✔ |
OneNote | ✔ | ✔ |
Access (เฉพาะ PC) | ✔ | ✔ |
Publisher (เฉพาะ PC) | ✔ | ✔ |
Microsoft Teams | ✔ | ✘ |
OneDrive (1TB พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์) | ✔ | ✘ |
SharePoint | ✔ | ✘ |
Yammer | ✔ | ✘ |
Power Automate | ✔ | ✘ |
Power Apps | ✔ | ✘ |
Planner | ✔ | ✘ |
To Do | ✔ | ✘ |
Microsoft Forms | ✔ | ✘ |
Bookings | ✔ | ✘ |
สรุป
Microsoft 365 มีแอปพลิเคชันมากกว่าและมีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริการคลาวด์และแอปเสริมที่รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างทีม เช่น Microsoft Teams, OneDrive, หรือ Power Apps
Microsoft Office เน้นไปที่แอปพลิเคชันพื้นฐานสำหรับการทำงานเอกสารโดยไม่มีแอปพลิเคชันเสริมเพิ่มเติมและไม่สามารถอัปเดตฟีเจอร์ใหม่หลังจากการซื้อ
เลือกแบบไหนดีกว่ากัน? Microsoft 365 หรือ Microsoft Office?
ทำไมคุณควรเลือก Microsoft 365?
Microsoft 365 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการใช้งานโปรแกรมที่ยืดหยุ่น สามารถทำงานบนหลายอุปกรณ์ และต้องการฟีเจอร์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนที่ทำงานในทีมที่ต้องการการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ Microsoft 365 ยังเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการฟีเจอร์การทำงานบนคลาวด์ และการจัดการที่ง่ายดาย
ทำไม Microsoft Office อาจเหมาะกับคุณ?
หากคุณเป็นผู้ใช้งานที่ต้องการโปรแกรมพื้นฐาน ไม่ต้องการอัปเดตฟีเจอร์บ่อยครั้ง และไม่ต้องการสมัครสมาชิก Microsoft Office ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี การซื้อขาดเพียงครั้งเดียวช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว และเหมาะกับคนที่ทำงานคนเดียวและไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์การทำงานร่วมกันหรือคลาวด์
สรุป
หากคุณต้องการโปรแกรมที่สามารถใช้งานแบบจ่ายครั้งเดียว Microsoft Office อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำงานพื้นฐานทั่วไป แต่หากคุณเป็นคนที่ต้องการความยืดหยุ่น การใช้งานข้ามอุปกรณ์หลายเครื่อง และการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง Microsoft 365 เป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการทำงานร่วมกันออนไลน์และต้องการเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง
หรือหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน Microsoft ติดต่อ Quick ERP ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจรทั้ง IT OT และ AI พร้อมผลักดันลูกค้าทุกรายสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ
ก้าวเข้าสู่ Digital Business
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่