การบริหารกระบวนการผลิตในยุคดิจิทัล
โรงงานในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวัตถุดิบหมดสต็อกที่อาจทำให้สายการผลิตต้องหยุดชะงัก เครื่องจักรที่ขัดข้องจนต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการผลิต หรือแม้แต่การอัปเดตรหัสสินค้าตามมาตรฐานอุตสาหกรรม หากไม่มีระบบที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงงานอาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ความล่าช้าในการผลิต และโอกาสทางธุรกิจที่สูญเสียไป
Microsoft Dynamics 365 Finance & Operations (FO) ช่วยให้โรงงานสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยให้การบริหารกระบวนการผลิตมีความคล่องตัวมากขึ้น
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
- Change BOM Item ช่วยให้สามารถเปลี่ยนวัตถุดิบได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องยกเลิกคำสั่งผลิต
- Change Route ช่วยให้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการผลิตได้ทันทีหากเครื่องจักรขัดข้องหรือจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการ
- Rename Item Number & Product Number ช่วยให้เปลี่ยนหมายเลขสินค้าได้โดยไม่ต้องสร้างรหัสใหม่ ลดข้อผิดพลาดในการจัดการข้อมูล
การมีระบบที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้โรงงานสามารถลดต้นทุน ลดของเสีย และปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
BOM และ Route คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
BOM (Bill of Materials) คืออะไร
BOM คือ รายการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าแต่ละรายการ โดยระบุว่าวัตถุดิบที่ต้องใช้คืออะไรและในปริมาณเท่าใด เช่น การผลิตโต๊ะไม้ อาจต้องใช้ไม้เนื้อแข็ง 4 ชิ้น ตะปู 20 ตัว และกาว 100 มิลลิลิตร
ทำไม BOM จึงสำคัญ
BOM เป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการผลิต เพราะช่วยให้โรงงานสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างถูกต้อง หากไม่มี BOM ที่ชัดเจน อาจเกิดปัญหาวัตถุดิบขาดสต็อกหรือการใช้วัตถุดิบผิดพลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตทั้งหมด
การจัดการ BOM อย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยให้สามารถบริหารสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น ลดการสั่งซื้อเกินจำเป็น และรองรับการเปลี่ยนวัตถุดิบทดแทนเมื่อเกิดปัญหาในการจัดหา
Route คืออะไร
Route หรือเส้นทางการผลิต คือกระบวนการที่กำหนดว่าสินค้าต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนเป็นสินค้าสำเร็จรูป ยกตัวอย่างเช่น การผลิตโต๊ะไม้
- ตัดไม้ให้เป็นชิ้นส่วนโต๊ะ
- ขัดไม้ให้เรียบ
- ประกอบเป็นโต๊ะ
- ทำสีและเคลือบเงา
ทำไม Route จึงสำคัญ
Route ช่วยกำหนดขั้นตอนของกระบวนการผลิตให้เป็นระบบ ลดความผิดพลาดจากการทำงานที่ไม่เป็นไปตามแผน อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาคอขวดในการผลิต หากเครื่องจักรในกระบวนการใดมีปัญหา Route ที่ยืดหยุ่นสามารถช่วยให้โรงงานเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรสำรองหรือเส้นทางการผลิตอื่นได้
การบริหาร Route อย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยควบคุมต้นทุน ลดของเสียจากกระบวนการผลิต และเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารสายการผลิต
ปัญหาก่อนใช้ฟีเจอร์ Change BOM Item และ Change Route
1. วัตถุดิบหมดสต็อก หรือจัดส่งล่าช้า
หากวัตถุดิบหลักที่กำหนดไว้ใน BOM หมดสต็อก หรือจัดส่งไม่ทัน โรงงานจำเป็นต้องหาแนวทางทดแทน แต่หากไม่มีฟีเจอร์ Change BOM Item การเปลี่ยนวัตถุดิบต้องทำผ่านกระบวนการแมนนวล ซึ่งทำให้ต้อง ยกเลิก Production Order และสร้างคำสั่งใหม่ ทำให้เสียเวลาและอาจกระทบต่อกำหนดส่งมอบสินค้า
2. เครื่องจักรขัดข้อง เส้นทางการผลิตมีปัญหา
หากเครื่องจักรที่กำหนดไว้ในเส้นทางการผลิตเกิดปัญหา อาจทำให้สายการผลิตหยุดชะงัก การเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรอื่นหรือเส้นทางการผลิตที่เหมาะสมกว่าอาจช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าระบบไม่มีฟีเจอร์ Change Route ต้องยกเลิก Production Order และวางแผนการผลิตใหม่ ทำให้กระบวนการล่าช้า
3. ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่มีประสิทธิภาพ
การใช้วัตถุดิบหรือเส้นทางการผลิตที่ไม่มีความยืดหยุ่น อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น เช่น ใช้วัตถุดิบที่มีราคาแพงโดยไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบที่ถูกกว่าได้ หรือใช้เครื่องจักรที่มีค่าใช้จ่ายสูงทั้งที่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
หลังใช้ฟีเจอร์ Change BOM Item และ Change Route
1. เปลี่ยนวัตถุดิบได้ทันที โดยไม่ต้องยกเลิก Production Order
หากวัตถุดิบหลักที่ใช้ใน Production Order หมด สามารถใช้ Change BOM Item เพื่อเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบอื่นที่สามารถทดแทนกันได้ ระบบจะอัปเดต BOM อัตโนมัติ ทำให้การผลิตดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
2. ปรับเปลี่ยนเส้นทางการผลิตได้ เมื่อเครื่องจักรมีปัญหา
หากเครื่องจักรเสียหรือต้องซ่อมบำรุง สามารถใช้ Change Route เพื่อเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรสำรองที่มีอยู่ได้ ระบบจะอัปเดตข้อมูลโดยอัตโนมัติ ลดปัญหาคอขวดและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
3. ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารการผลิต
การเปลี่ยน BOM และ Route ได้ตามสถานการณ์ ช่วยให้สามารถเลือกวัตถุดิบที่ต้นทุนต่ำกว่า หรือใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลดต้นทุนรวมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
Change BOM Item เปลี่ยนวัตถุดิบได้แบบเรียลไทม์
เงื่อนไขก่อนใช้งาน
- ใช้ได้กับ Production Order ที่อยู่ในสถานะ Estimated หรือ Scheduled
- BOM หรือ Formula ของ Production Order ต้องเป็นสูตรเดียวกัน
- สามารถเลือก Production Order ได้มากกว่าหนึ่งรายการในการเปลี่ยน BOM
ขั้นตอนการใช้งาน Change BOM Item
Step 1: เปิดเมนู Change BOM Item
ไปที่ Production control > Production orders > All production orders แล้วเลือกคำสั่งผลิตที่ต้องการเปลี่ยนวัตถุดิบ
Step 2: เลือกวัตถุดิบที่ต้องการเปลี่ยน
ระบบจะแสดง BOM ปัจจุบัน ให้เลือก
- From Item วัตถุดิบเดิม
- To Item วัตถุดิบใหม่ที่ต้องการใช้แทน
Step 3: ตรวจสอบสินค้าคงคลัง
ระบบจะแสดงปริมาณวัตถุดิบใหม่ที่มีอยู่ (On-hand inventory) และสูตรการผลิตที่เกี่ยวข้อง
Step 4: กำหนดปริมาณวัตถุดิบใหม่
ระบุ To Item Quantity ที่ต้องการใช้แทนวัตถุดิบเดิม
Step 5: ยืนยันการเปลี่ยนแปลง
กด OK ระบบจะอัปเดต BOM โดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์หลังจากเปลี่ยน BOM Item
ระบบจะลบปริมาณวัตถุดิบที่เคยถูกประเมินไว้ก่อนหน้านี้ให้เป็น 0
ระบบจะเพิ่มวัตถุดิบใหม่ที่เลือกเข้ามาแทนใน Production Order
ระบบจะทำการคำนวณใหม่ทั้งหมดให้สอดคล้องกับ BOM Item ใหม่
ไม่ต้องยกเลิก Production Order ทำให้สามารถดำเนินการผลิตต่อได้ทันที
Change Route ปรับเส้นทางการผลิตได้ตามสถานการณ์
เงื่อนไขก่อนใช้งาน
- ใช้ได้กับ Production Order ที่อยู่ในสถานะ Scheduled เท่านั้น
- สามารถเลือก Production Order ได้มากกว่าหนึ่งรายการในการเปลี่ยน Route
ขั้นตอนการใช้งาน Change Route
Step 1: เปิดเมนู Change Route
ไปที่ Production control > Production orders > All production orders แล้วเลือกคำสั่งผลิตที่ต้องการเปลี่ยนเส้นทาง
Step 2: เลือกเส้นทางการผลิตที่ต้องการเปลี่ยน
ระบุ
- From Route เส้นทางเดิม
- To Route เส้นทางใหม่ที่ต้องการใช้แทน
Step 3: ตรวจสอบเครื่องจักรสำรอง
ระบบจะแสดงเครื่องจักรที่สามารถใช้แทนได้ พร้อมข้อมูลความพร้อมของเครื่องจักร
Step 4: ยืนยันการเปลี่ยนแปลง
กด OK ระบบจะอัปเดตเส้นทางการผลิตใหม่โดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์หลังจากเปลี่ยน Route
ระบบจะแสดงรายการ Production Order ที่สามารถเปลี่ยน Route ได้
ลดปัญหาคอขวดในกระบวนการผลิต
ไม่ต้องยกเลิก Production Order ลดความล่าช้าและสามารถดำเนินการผลิตต่อได้ทันที
Rename Item Number & Product Number คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
Rename Item Number & Product Number คืออะไร
Rename Item Number & Product Number เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนหมายเลขสินค้าในระบบ ERP ได้โดยไม่ต้องสร้างรหัสใหม่ ระบบจะอัปเดตหมายเลขสินค้าใหม่โดยอัตโนมัติในทุกจุดที่เกี่ยวข้อง เช่น BOM, Route, Production Order, Inventory
ทำไม Rename Item Number & Product Number จึงสำคัญ
การตั้งหมายเลขสินค้าอย่างเป็นระบบช่วยลดความสับสนและข้อผิดพลาดในการบริหารสินค้าคงคลัง โรงงานที่มีรหัสสินค้าหลายชุด หรือมีการเปลี่ยนมาตรฐานของหมายเลขสินค้า สามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อจัดระเบียบโครงสร้างสินค้าให้เป็นระบบมากขึ้น
เมื่อเปลี่ยนหมายเลขสินค้า ระบบจะอัปเดตข้อมูลในทุกโมดูลโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาย้ายข้อมูลหรือสร้างรายการสินค้าใหม่ ลดความเสี่ยงจากข้อมูลซ้ำซ้อน และช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลด้านการผลิตและสต็อกมีความแม่นยำมากขึ้น
ฟีเจอร์นี้ยังช่วยรองรับมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ISO หรือ GS1 ทำให้ระบบติดตามและบริหารจัดการสินค้ามีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
ปัญหาก่อนใช้ Rename Item Number & Product Number
1. หมายเลขสินค้าซ้ำซ้อนและไม่มีมาตรฐาน
โรงงานที่ใช้หมายเลขสินค้ามาเป็นเวลานานมักเผชิญปัญหาหมายเลขสินค้าซ้ำซ้อน หรือใช้รูปแบบการตั้งรหัสที่ไม่เป็นมาตรฐาน ทำให้การบริหารข้อมูลในระบบซับซ้อน ส่งผลกระทบต่อสินค้าคงคลัง และกระบวนการผลิต
2. การเปลี่ยนหมายเลขสินค้าเป็นกระบวนการที่ยุ่งยาก
หากต้องการเปลี่ยนหมายเลขสินค้า โรงงานต้องสร้างรหัสสินค้าใหม่และย้ายข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังหมายเลขใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานาน และอาจเกิดข้อผิดพลาดจากการดำเนินการแบบแมนนวล
3. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องไม่ถูกอัปเดตอัตโนมัติ
เมื่อเปลี่ยนหมายเลขสินค้าในระบบเดิม ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น BOM, เส้นทางการผลิต (Route) และ Production Order ไม่ได้ถูกอัปเดตโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ต้องดำเนินการแก้ไขข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดในการผลิต
4. ส่งผลกระทบต่อระบบบัญชีและสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนหมายเลขสินค้าอาจส่งผลต่อระบบบัญชีและสินค้าคงคลัง ทำให้ข้อมูลในรายงานต่างๆ ไม่สอดคล้องกัน อาจทำให้เกิดปัญหาในการติดตามสินค้าหรือการตรวจสอบภายใน
5. ไม่มีความสามารถในการติดตามย้อนหลัง
หากมีการเปลี่ยนหมายเลขสินค้า โรงงานต้องจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังแยกกัน ซึ่งอาจทำให้การตรวจสอบหรือการดึงข้อมูลย้อนหลังมีความยุ่งยาก
หลังใช้ Rename Item Number & Product Number
1. สามารถเปลี่ยนหมายเลขสินค้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องสร้างรหัสใหม่
ฟีเจอร์ Rename Item Number ช่วยให้โรงงานสามารถเปลี่ยนหมายเลขสินค้าได้โดยไม่ต้องสร้างรหัสใหม่ ระบบจะอัปเดตหมายเลขสินค้าโดยอัตโนมัติในทุกจุดที่เกี่ยวข้อง
2. อัปเดตข้อมูลได้อัตโนมัติในทุกโมดูล
เมื่อเปลี่ยนหมายเลขสินค้า ระบบจะอัปเดตข้อมูลใน BOM, Route และ Production Order โดยอัตโนมัติ ลดความซับซ้อนของกระบวนการและช่วยให้ข้อมูลในระบบเป็นปัจจุบัน
3. ลดความผิดพลาดจากการเปลี่ยนหมายเลขสินค้าแบบแมนนวล
ฟีเจอร์นี้ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการคัดลอกและแก้ไขข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนหมายเลขสินค้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตหรือระบบบัญชี
4. รองรับการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ
หมายเลขสินค้าถูกจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น ลดปัญหาหมายเลขสินค้าซ้ำซ้อน และช่วยให้การติดตามสินค้าทำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สินค้าคงคลังมีข้อมูลที่แม่นยำ
5. รองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมและการตรวจสอบย้อนหลังได้ง่ายขึ้น
ระบบสามารถบันทึกประวัติการเปลี่ยนแปลงหมายเลขสินค้า ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ง่ายขึ้น ช่วยให้โรงงานสามารถบริหารข้อมูลตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ISO และ GS1
จัดการหมายเลขสินค้าอย่างเป็นระบบด้วย Rename Item Number & Product Number
เงื่อนไขก่อนใช้งาน
ไม่สามารถเปลี่ยนหมายเลขสินค้าได้หาก Production Order กำลังดำเนินการอยู่
ต้องไม่มีธุรกรรมทางบัญชีที่ค้างอยู่กับหมายเลขสินค้านั้น
ต้องไม่มีการเชื่อมโยงกับเอกสารการขายที่ยังไม่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น
เมื่อเปลี่ยนหมายเลขสินค้าแล้ว ระบบจะอัปเดตทุกจุดที่เกี่ยวข้อง เช่น BOM, Route, Production Order
ขั้นตอนการใช้งาน Rename Item Number
Step 1: เปิดเมนู Rename Item Number
ไปที่ Transaction and Setup > Rename Item Number
Step 2: ระบุหมายเลขสินค้าเดิมและหมายเลขใหม่
ใส่
Old Item Number หมายเลขสินค้าเดิม
New Item Number หมายเลขสินค้าใหม่
Step 3: ตรวจสอบผลกระทบในระบบ
ระบบจะแสดงรายการที่ได้รับผลกระทบ เช่น BOM, Route และ Production Order
Step 4: ยืนยันการเปลี่ยนแปลง
กด OK ระบบจะอัปเดตหมายเลขสินค้าใหม่โดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์หลังจากเปลี่ยน Rename Item Number & Product Number
หมายเลขสินค้าใหม่ถูกนำไปใช้กับทุกธุรกรรมโดยอัตโนมัติ
ข้อมูล BOM, Route และ Production Order ที่เกี่ยวข้องจะอัปเดตทันที
ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการใช้หมายเลขสินค้าที่ซ้ำซ้อน
สรุป
การบริหารการผลิตในยุคดิจิทัลต้องการความยืดหยุ่นและความแม่นยำในการจัดการข้อมูล Microsoft Dynamics 365 Finance & Operations (FO) มอบโซลูชันที่ช่วยให้โรงงานสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตได้อย่างคล่องตัว ด้วยฟีเจอร์สำคัญ เช่น Change BOM Item, Change Route และ Rename Item Number
การใช้ระบบที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้โรงงาน ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความแม่นยำ และปรับตัวเข้ากับความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการเติบโตทางธุรกิจที่มั่นคง
หากต้องการโซลูชันที่ช่วยให้การบริหารโรงงานเป็นไปอย่างราบรื่น ติดต่อ Quick ERP เพื่อรับคำปรึกษาและเริ่มต้นใช้งาน Dynamics 365 FO ได้แล้ววันนี้!
ก้าวเข้าสู่ Digital Business
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่