อัปเดตใหม่ D365 FO 10.0.44 เพิ่มศักยภาพการทำงาน อธิบายละเอียด

อัปเดตใหม่ D365 FO 10.0.44 เพิ่มศักยภาพการทำงาน อธิบายละเอียด

Dynamics 365 FO เวอร์ชัน 10.0.44 ไม่ได้แค่อัปเกรดระบบ ERP แต่ยกระดับการควบคุมคุณภาพทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ CAPA, COA, ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการบันทึกการผลิตแบบไร้กระดาษ (EBRs) เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญข้อกำหนดเข้มข้น เช่น ยา อาหาร และเคมีภัณฑ์
มีอะไรใหม่ใน Dynamics 365 FO 10.0.44 อัปเดตใหม่ เพิ่มศักยภาพการทำงาน

เปลี่ยนระบบคุณภาพให้อัจฉริยะยิ่งขึ้นด้วย D365FO เวอร์ชันใหม่

ในโลกธุรกิจยุคที่ข้อมูลและความแม่นยำคือปัจจัยชี้วัดความสำเร็จ ระบบ ERP จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือสำหรับจัดการธุรกรรมทางการเงินหรือคลังสินค้าอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นโซลูชันหลักของการควบคุมคุณภาพ การตรวจสอบย้อนกลับ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบในระดับองค์กร

Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 (Release Wave 1 – ปี 2025) จึงไม่ได้มาเพียงเพื่อเพิ่มความเร็วหรือความเสถียรของระบบ แต่ได้นำเสนอคุณสมบัติใหม่ที่ยกระดับการบริหารจัดการคุณภาพ (Quality Management) และกระบวนการผลิต (Manufacturing Execution) ให้มีความชาญฉลาดและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไล่เรียงดูไฮไลต์ของฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชัน 10.0.44 ที่ตอบโจทย์องค์กรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่การตรวจสอบแบบ Sampling ที่ยืดหยุ่น การจัดการปัญหาเชิงระบบ (CAPA) ไปจนถึงการบันทึก Batch แบบไร้กระดาษ (EBRs)

ภาพรวมฟีเจอร์ใหม่ใน D365FO 10.0.44 ก้าวสำคัญของ ERP ที่ขับเคลื่อนด้วยคุณภาพ

Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 เปิดตัวพร้อมชุดฟีเจอร์ใหม่ที่มุ่งเน้น “การบริหารจัดการคุณภาพ” อย่างครบวงจรในระดับองค์กร โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการยกระดับมาตรฐานการผลิต การตรวจสอบ และการติดตามย้อนหลังให้สอดคล้องกับมาตรฐาน GMP, ISO และ FDA

กลุ่มฟีเจอร์ รายการฟีเจอร์ คำอธิบาย
Continuous Improvement CAPA Management จัดการปัญหาคุณภาพแบบมีระบบ โดยเชื่อมโยงกับ Quality Order และ Root Cause
Non-Conformance บริหารจัดการข้อบกพร่องของสินค้า/กระบวนการที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
Regulatory Compliance Approve Customer List กำหนดลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติก่อนนำไปใช้ในคำสั่งผลิตหรืองานขาย
Customer-specific COA ออกเอกสารรับรองคุณภาพ (COA) แบบเฉพาะลูกค้าโดยไม่ต้องแก้ไขแมนนวล
Electronic Signature ลงนามเอกสารสำคัญในระบบด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการ audit
Digitized Manufacturing Electronic Batch Record (EBRs) บันทึกกระบวนการผลิตแบบดิจิทัล สำหรับตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน
Production Dispensing ควบคุมการจ่ายวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอย่างแม่นยำและตรวจสอบได้
User Productivity Quick Test Result Entry ป้อนผลการตรวจคุณภาพได้เร็ว พร้อมแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อไม่ผ่านเกณฑ์
Quality Management Workspace หน้าจอรวมศูนย์ข้อมูล QA เช่น คำสั่งตรวจสอบ ผลตรวจ รายการที่ต้องติดตาม
Optimized Testing Flexible Sampling Plans ปรับขนาดการสุ่มตรวจสอบตามประวัติคุณภาพของผู้จัดส่งหรือวัสดุ
Skip Lot Testing ข้ามรอบตรวจอัตโนมัติสำหรับซัพพลายเออร์ที่มีสถิติความน่าเชื่อถือดี
New Quality Order Triggers ตั้งเงื่อนไขสร้างคำสั่งตรวจสอบโดยอัตโนมัติ เช่น รับสินค้าจากแหล่งใหม่
Instrument Calibration บริหารรอบการสอบเทียบเครื่องมือวัด พร้อมติดตามและแจ้งเตือน
Track Shelf-life Audit History ติดตามประวัติการเปลี่ยนแปลงวันผลิต-วันหมดอายุของสินค้าแต่ละล็อต

โดยฟีเจอร์ทั้งหมดนี้สามารถเปิดใช้งานผ่าน Feature Management ทำให้องค์กรสามารถเปิดใช้งานตามความพร้อมของกระบวนการได้อย่างยืดหยุ่นและควบคุมได้

ยกระดับคุณภาพการผลิตอย่างยั่งยืน ด้วยระบบจัดการ CAPA และ Non-Conformance ใน D365FO

แม้องค์กรจะมีมาตรการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดเพียงใด แต่ “ปัญหา” ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะมาจากวัตถุดิบที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เครื่องจักรที่ผิดพลาด หรือกระบวนการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับองค์กรที่มีศักยภาพ คือความสามารถในการจัดการปัญหาเหล่านั้นอย่างมีระบบ พร้อมต่อยอดสู่การปรับปรุงที่ยั่งยืน

ใน Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 Microsoft ได้เพิ่มฟีเจอร์กลุ่ม Continuous Improvement ที่ช่วยให้องค์กรเปลี่ยน “การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ให้กลายเป็น “การบริหารคุณภาพเชิงระบบ” ผ่านการบูรณาการสองฟีเจอร์หลัก ได้แก่ CAPA Management และ Non-Conformance Management ซึ่งทำงานสอดประสานกับกระบวนการตรวจสอบคุณภาพใน ERP ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • CAPA Management: วางระบบจัดการปัญหาแบบไม่เกิดซ้ำ

ฟีเจอร์ CAPA (Corrective and Preventive Action) ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันนี้ ออกแบบมาเพื่อให้การจัดการปัญหาคุณภาพเป็นไปอย่างเป็นระบบและตรวจสอบย้อนหลังได้ชัดเจน โดยองค์กรสามารถเปิดเคส CAPA ได้ทันทีเมื่อพบปัญหาจากการตรวจสอบหรือข้อร้องเรียนของลูกค้า จากนั้นระบบจะช่วยให้สามารถระบุสาเหตุหลักของปัญหาได้ ไม่ว่าจะเกิดจากกระบวนการ วัตถุดิบ เครื่องจักร หรือมนุษย์ พร้อมวางแผนการแก้ไขและป้องกันในระดับต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความรุนแรงของปัญหา

สิ่งสำคัญคือฟีเจอร์นี้ไม่ได้ทำงานแบบแยกส่วน แต่เชื่อมโยงกับ Quality Orders, Workflow และผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนภายในระบบเดียวกัน ช่วยลดการพึ่งพา Excel หรือเอกสารแยกต่างหากที่อาจตกหล่น พร้อมมีระบบบันทึกผลลัพธ์และสถานะการดำเนินงานที่โปร่งใส เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการเตรียมพร้อมต่อการตรวจสอบจากภายนอก หรือสร้างวัฒนธรรมคุณภาพแบบไม่พึ่งตัวบุคคล

  • Non-Conformance: ตรวจสอบและควบคุมข้อบกพร่องเชิงระบบ

ในอีกมิติหนึ่ง ฟีเจอร์ Non-Conformance ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในไลน์การผลิตได้อย่างรอบด้าน เมื่อพบข้อบกพร่องที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับสินค้า กระบวนการ หรือวัสดุ ระบบจะช่วยบันทึกและจำแนกประเภทความไม่สอดคล้อง พร้อมให้ทีมงานวิเคราะห์สาเหตุและพิจารณาทางเลือกในการจัดการ เช่น กักกันสินค้า ตรวจสอบซ้ำ หรือปรับปรุงกระบวนการผลิต

ความสามารถในการเชื่อมโยง Non-Conformance กับ Quality Orders และ CAPA ช่วยให้องค์กรไม่เพียงแค่ “รู้ว่าปัญหาเกิดที่ไหน” แต่ยังเข้าใจได้ว่า “เพราะเหตุใดปัญหานั้นจึงเกิด” และ “ควรป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดอีก” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปรับปรุงคุณภาพอย่างแท้จริง

เชื่อมโยงคุณภาพเข้ากับระบบ ERP อย่างสมบูรณ์

การมี CAPA และ Non-Conformance ภายในระบบ ERP โดยตรง ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการคุณภาพได้แบบบูรณาการ ไม่ต้องสลับระบบ ไม่ต้องนำข้อมูลไปประมวลผลแยก และสามารถสร้างภาพรวมของปัญหาในระดับองค์กรได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนจากการแก้ปัญหาซ้ำ ๆ เสริมความมั่นใจในการตรวจสอบจากลูกค้าและองค์กรกำกับดูแล และสนับสนุนการวางแผนปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากข้อมูลจริง

D365FO 10.0.44 ไม่ได้เปลี่ยนแค่เครื่องมือ แต่กำลังเปลี่ยน “วิธีคิด” ในการจัดการคุณภาพให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างธุรกิจ

พาร์ทถัดไปจะต่อเนื่องไปยัง Regulatory Compliance ซึ่งเหมาะกับองค์กรที่ต้องเผชิญข้อกำหนดจากภายนอก เช่น ลูกค้าระดับสากล องค์กรรับรอง หรือภาครัฐ โดยเฉพาะในด้าน COA, ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และการควบคุมกระบวนการที่เกี่ยวกับลูกค้าโดยตรง

สร้างความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าและองค์กรรับรอง ด้วยระบบ ERP ที่รองรับมาตรฐานสากล

ในโลกของการผลิตยุคใหม่ ความสามารถในการส่งมอบสินค้าตรงเวลาและตรงตามความต้องการนั้น “จำเป็น” แต่ ยังไม่เพียงพอ อีกต่อไป องค์กรในภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยา อาหาร เคมี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องมือแพทย์ กำลังเผชิญความท้าทายจากข้อกำหนดภายนอกที่ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน GMP, ISO 9001, FDA หรือข้อกำหนดเฉพาะจากลูกค้ารายใหญ่

เพื่อให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Microsoft จึงได้พัฒนา กลุ่มฟีเจอร์ Regulatory Compliance ใน Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 ซึ่งช่วยให้การควบคุมคุณภาพและการดำเนินการทางเอกสารเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบเสริมจากภายนอก

  • Approve Customer List: ลดความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทางคำสั่งผลิต

สำหรับองค์กรที่ต้องแยกระดับความน่าเชื่อถือของลูกค้าหรือกำหนดข้อจำกัดเฉพาะสำหรับการผลิตสินค้าในแต่ละราย ฟีเจอร์ Approve Customer List เข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ โดยสามารถกำหนดรายชื่อลูกค้าที่ผ่านการอนุมัติก่อนให้ระบบสามารถสร้างใบสั่งขาย (Sales Order) หรือคำสั่งผลิต (Production Order) ได้

สิ่งนี้ช่วยลดโอกาสในการดำเนินการกับคำสั่งที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ เช่น ลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ได้จัดการด้านเอกสาร เงื่อนไขพิเศษ หรือข้อจำกัดในกระบวนการผลิตเฉพาะทาง ทำให้ทีมขายและฝ่ายผลิตทำงานภายใต้กรอบที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้

  • Customer-specific COA: ออกใบรับรองคุณภาพที่ตรงใจลูกค้าแบบอัตโนมัติ

Certificate of Analysis หรือ COA คือเอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยในหลายกรณี ลูกค้ารายใหญ่หรือองค์กรในอุตสาหกรรมเฉพาะทางอาจมีความต้องการเฉพาะ เช่น รูปแบบเอกสาร สารที่ต้องวิเคราะห์ หรือค่ามาตรฐานที่ต่างจากลูกค้าทั่วไป

ฟีเจอร์ Customer-specific COA ในเวอร์ชันนี้ช่วยให้คุณสามารถออกเอกสาร COA แบบ “เฉพาะรายลูกค้า” ได้โดยไม่ต้องปรับแก้เอกสารแบบแมนนวลหรือใช้ระบบนอก ERP อีกต่อไป องค์กรสามารถกำหนดรูปแบบ ฟิลด์ข้อมูล และเกณฑ์ที่แตกต่างกันได้ตามแต่ละบัญชีลูกค้า ช่วยให้การออกเอกสารสำคัญทำได้รวดเร็ว ถูกต้อง และสร้างความประทับใจในการให้บริการที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ลูกค้าได้ลึกยิ่งขึ้น

  • Electronic Signature: เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับเอกสารสำคัญ

ในโลกที่การตรวจสอบย้อนกลับและการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลกลายเป็นสิ่งจำเป็น ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่คือ “ข้อบังคับ” ของหลายองค์กร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือกฎเกณฑ์ภายนอก

Dynamics 365 FO เวอร์ชัน 10.0.44 รองรับการลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในเอกสารสำคัญโดยตรงภายในระบบ ERP เช่น ใบรับรอง COA, รายงานผลการตรวจสอบ หรือคำสั่งผลิตที่ต้องผ่านการอนุมัติก่อนใช้งานจริง ระบบจะบันทึกชื่อผู้ลงนาม วันที่ และเวลาไว้ใน Audit Trail อย่างครบถ้วน รองรับการตรวจสอบจากหน่วยงานรับรอง หรือองค์กรคู่สัญญาที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

ERP ที่พร้อมต่อยอดการตรวจสอบและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์

เมื่อรวมฟีเจอร์ Approve Customer List, Customer-specific COA และ Electronic Signature เข้าด้วยกัน องค์กรจะสามารถสร้างระบบควบคุมและติดตามคุณภาพที่ครอบคลุมทั้งด้านเอกสาร ผู้เกี่ยวข้อง และมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ในระบบเดียว

  • ลดภาระงานแมนนวลของฝ่าย QA และฝ่ายผลิต
  • ตอบสนองต่อข้อกำหนดลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น
  • เตรียมพร้อมต่อการ Audit หรือ External Assessment ได้แบบไม่ต้องเตรียมเอกสารล่วงหน้า
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับทั้งลูกค้า ผู้บริหาร และหน่วยงานกำกับดูแล

ในพาร์ทถัดไป เราจะลงลึกไปยังกลุ่มฟีเจอร์ Digitized Manufacturing ที่เปลี่ยนกระบวนการผลิตและการจดบันทึกผลการตรวจสอบจากแบบกระดาษให้กลายเป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านฟีเจอร์อย่าง Electronic Batch Record (EBRs) และ Production Dispensing ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มความโปร่งใส และเตรียมพร้อมสำหรับระบบโรงงานอัจฉริยะในอนาคต

เปลี่ยนกระบวนการผลิตให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ ด้วย EBRs และระบบควบคุมการจ่ายวัตถุดิบแบบดิจิทัล

การบันทึกข้อมูลในสายการผลิตเคยเป็นเรื่องที่ต้องพึ่งพากระดาษ สมุดจด หรือแบบฟอร์ม Excel ซึ่งแม้จะเป็นวิธีที่คุ้นเคย แต่กลับมีจุดอ่อนในแง่ของความถูกต้อง ความปลอดภัย และความสามารถในการตรวจสอบย้อนหลัง ยิ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานอย่าง GMP หรือ FDA การเก็บข้อมูลกระบวนการผลิตอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 ได้นำเสนอทางออกด้วยกลุ่มฟีเจอร์ Digitized Manufacturing ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับกระบวนการผลิตจาก “ระบบเอกสารแมนนวล” ไปสู่ “ระบบข้อมูลดิจิทัล” อย่างเต็มรูปแบบ ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการกรอกข้อมูลด้วยมือ และเปิดโอกาสให้สามารถตรวจสอบ ย้อนกลับ และวิเคราะห์ได้แบบเรียลไทม์

  • Electronic Batch Record (EBRs): จากบันทึกด้วยมือ สู่ข้อมูลที่ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

EBRs คือระบบที่ใช้จัดเก็บข้อมูลการผลิตของแต่ละล็อต (batch) ในรูปแบบดิจิทัลอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ใช้ เครื่องจักรที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ดำเนินการ ผลการทดสอบ หรือเวลาที่ดำเนินการจริง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมโยงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โดยอัตโนมัติ เช่น ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายวางแผนการผลิต และฝ่าย QA

การเปลี่ยนมาใช้ EBRs ช่วยให้การตรวจสอบย้อนหลังทำได้ภายในไม่กี่คลิก แทนที่จะต้องค้นเอกสารจากแฟ้มจำนวนมาก ลดต้นทุนด้านเวลา ลดความเสี่ยงจากการสูญหายของเอกสาร และช่วยให้องค์กรพร้อมสำหรับการตรวจสอบจากภายนอกได้ตลอดเวลา

ที่สำคัญคือ EBRs ยังเป็นองค์ประกอบหลักของ “โรงงานดิจิทัล” ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านคุณภาพ การวางแผน และการจัดการความเสี่ยง

  • Production Dispensing: ควบคุมวัตถุดิบด้วยความแม่นยำ ลดความผิดพลาดตั้งแต่ต้นทาง

การจ่ายวัตถุดิบผิดชนิดหรือผิดปริมาณในกระบวนการผลิตอาจนำไปสู่สินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ฟีเจอร์ Production Dispensing ช่วยให้สามารถควบคุมการจ่ายวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำ โดยเชื่อมต่อคำสั่งผลิตกับการเบิกจ่ายวัตถุดิบในระบบ ERP แบบอัตโนมัติ

ระบบสามารถตรวจสอบได้ว่า วัตถุดิบถูกจ่ายจากล็อตที่ถูกต้องหรือไม่ ปริมาณตรงตามสูตรการผลิตหรือไม่ และใครเป็นผู้ดำเนินการในแต่ละขั้นตอน ข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกและผูกเข้ากับ Batch Record โดยตรง ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบย้อนหลังและการติดตามปัญหาทำได้ทันที

สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมความเสี่ยงในระดับสูง เช่น การผลิตเวชภัณฑ์ เคมี หรืออาหาร การมีระบบ Production Dispensing ที่เชื่อมโยงกับระบบ ERP โดยตรงช่วยลดโอกาสผิดพลาดจากคน และเพิ่มความมั่นใจว่าทุกการจ่ายวัตถุดิบเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

ในพาร์ทถัดไป เราจะเข้าสู่กลุ่มฟีเจอร์ User Productivity ที่ช่วยให้ทีมควบคุมคุณภาพทำงานได้เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และติดตามผลได้ง่ายขึ้นผ่านหน้าจอศูนย์กลางงานคุณภาพและระบบการป้อนผลทดสอบอัตโนมัติ

เร่งสปีดการตรวจสอบคุณภาพ ลดความผิดพลาดด้วยระบบป้อนผลและศูนย์กลางงาน QA ใน D365FO

แม้กระบวนการผลิตและการจัดการคุณภาพจะวางระบบมาอย่างรัดกุมเพียงใด หากทีมควบคุมคุณภาพ (QA) ยังต้องทำงานภายใต้เครื่องมือที่ล้าสมัย เช่น การกรอกผลลงกระดาษ การเปิดหลายหน้าจอเพื่อดูสถานะ หรือการไล่ตามเอกสารจากหลายฝ่าย—ประสิทธิภาพของระบบโดยรวมย่อมถูกจำกัดลง

Microsoft จึงได้พัฒนา กลุ่มฟีเจอร์ User Productivity ใน Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยตรง โดยเน้นให้ทีม QA ทำงานได้เร็วขึ้น ถูกต้องขึ้น และบริหารจัดการข้อมูลการตรวจสอบได้ในจุดเดียว

  • Quick Test Result Entry: ป้อนผลตรวจได้ทันที ไม่ต้องสลับหลายหน้าจอ

ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อลดภาระการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนของทีม QA ในทุกขั้นตอนของการตรวจสอบคุณภาพ เมื่อตรวจพบผลลัพธ์จากเครื่องมือวัด ไม่ว่าจะเป็นค่าความชื้น ความเป็นกรด-ด่าง หรือคุณลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ เจ้าหน้าที่สามารถป้อนค่าดังกล่าวเข้าสู่ระบบได้โดยตรงผ่านหน้าเดียวกัน โดยไม่ต้องเปิดหลายหน้าจอหรือเปลี่ยนโมดูลให้ยุ่งยาก

ที่สำคัญ ระบบจะมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติหากค่าที่กรอกไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น มีค่าผิดพลาดจากค่าเฉลี่ย หรือเกินขอบเขตมาตรฐาน ระบบสามารถระบุสถานะของล็อตสินค้านั้นได้ทันทีว่าควร “ผ่าน” หรือ “กักกัน” ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างทันท่วงที ลดโอกาสที่สินค้าจะหลุดไปสู่กระบวนการถัดไปโดยไม่ตั้งใจ

  • Quality Management Workspace: รวมทุกงานคุณภาพไว้ในจุดเดียว

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพทีมคุณภาพคือ Quality Management Workspace ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงาน QA ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งตรวจสอบที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ผลการตรวจล่าสุด รายการที่ต้องติดตาม หรือเคสปัญหาที่เปิดไว้ในระบบ CAPA

ผู้จัดการฝ่ายคุณภาพสามารถเข้าถึงข้อมูลภาพรวมได้แบบเรียลไทม์ เห็นแนวโน้มการเกิดปัญหา ความคืบหน้าของการแก้ไข และผลกระทบในกระบวนการผลิตได้โดยไม่ต้องประสานงานจากหลายฝ่าย ทำให้การตัดสินใจเพื่อควบคุมคุณภาพเป็นไปอย่างแม่นยำและทันเวลา

ในพาร์ทถัดไป เราจะปิดท้ายกลุ่มฟีเจอร์คุณภาพด้วย Optimized Testing ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้การตรวจสอบคุณภาพ “ฉลาดขึ้น” โดยปรับขนาดการสุ่มตัวอย่างตามความเสี่ยง ข้ามการตรวจที่ไม่จำเป็น และจัดการอุปกรณ์วัดแบบมีระบบ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้การตรวจสอบอย่างยั่งยืน

ตรวจสอบคุณภาพอย่างแม่นยำ โดยไม่เพิ่มภาระงาน ด้วยฟีเจอร์ตรวจแบบอัจฉริยะใน D365FO 10.0.44

ในอดีต การควบคุมคุณภาพที่ดีมักแปลว่าต้องตรวจสอบให้มาก ตรวจให้ครบ ตรวจให้ละเอียด แต่นั่นก็หมายถึงภาระงานที่เพิ่มขึ้นตามมา ทั้งในแง่ของเวลา ทรัพยากร และต้นทุนในการดำเนินการ ซึ่งสำหรับหลายองค์กรแล้ว ไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน

Microsoft จึงออกแบบชุดฟีเจอร์ Optimized Testing ใน Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 เพื่อให้การควบคุมคุณภาพยังคงเข้มงวด แต่ “ฉลาดขึ้น” และ “ยืดหยุ่นตามความเสี่ยงจริง” ของกระบวนการผลิตแต่ละประเภท ช่วยลดภาระของทีม QA โดยไม่ลดระดับความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า

  • Flexible Sampling Plans: ปรับกลยุทธ์การสุ่มตรวจตามประวัติคุณภาพ

Flexible Sampling Plans: ปรับกลยุทธ์การสุ่มตรวจตามประวัติคุณภาพ

การสุ่มตัวอย่างแบบคงที่อาจไม่เหมาะกับทุกสถานการณ์ เพราะบางซัพพลายเออร์มีประวัติดีเยี่ยม บางรายมีความเสี่ยงสูง และบางวัสดุก็มีความอ่อนไหวมากกว่าวัสดุอื่น

ฟีเจอร์ Flexible Sampling Plans เปิดโอกาสให้องค์กรสามารถตั้งค่าการสุ่มตรวจได้แบบไดนามิก เช่น หากซัพพลายเออร์รายหนึ่งมีผลการตรวจที่ดีติดต่อกันหลายล็อต ระบบอาจลดขนาดการสุ่มตัวอย่างลงโดยอัตโนมัติ แต่หากพบปัญหาในการตรวจล่าสุด ระบบจะเพิ่มขนาดการสุ่มหรือเพิ่มเงื่อนไขการตรวจทันที

ผลลัพธ์คือการใช้ทรัพยากรตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ โฟกัสกับจุดเสี่ยง โดยไม่ต้องตรวจทุกอย่างเท่ากันหมด

  • Skip Lot Testing: ข้ามรอบตรวจโดยอัตโนมัติในกรณีที่เชื่อถือได้

Skip Lot Testing: ข้ามรอบตรวจโดยอัตโนมัติในกรณีที่เชื่อถือได้

สำหรับซัพพลายเออร์ที่มีประวัติดีอย่างต่อเนื่อง ระบบสามารถกำหนดให้ “ข้ามรอบการตรวจ” บางล็อตโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดภาระการตรวจในสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีความน่าเชื่อถือสูง และเพิ่มเวลาให้ทีม QA ไปโฟกัสกับกรณีที่มีความซับซ้อนหรือเสี่ยงมากกว่า

นโยบาย Skip Lot ไม่ได้หมายถึงการลดระดับความเข้มงวด แต่คือการนำ “ความน่าเชื่อถือทางสถิติ” มาใช้ในการบริหารทรัพยากรการตรวจสอบอย่างคุ้มค่า

  • New Quality Order Triggers: เงื่อนไขการตรวจสอบที่ตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น

New Quality Order Triggers: เงื่อนไขการตรวจสอบที่ตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น

แทนที่จะต้องเปิด Quality Order ด้วยมือในทุกกรณี ระบบสามารถสร้างคำสั่งตรวจสอบอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น สินค้าที่มาจากแหล่งผลิตใหม่ การเปลี่ยนสูตรผลิต การพบปัญหาในล็อตก่อนหน้า หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในกระบวนการแปรรูป

สิ่งนี้ช่วยให้ระบบตอบสนองต่อความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากเจ้าหน้าที่

  • Instrument Calibration: ควบคุมความแม่นยำของเครื่องมือวัดในระดับระบบ

การตรวจสอบจะไม่มีความหมาย หากเครื่องมือที่ใช้วัดไม่แม่นยำ ฟีเจอร์ Instrument Calibration ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการรอบการสอบเทียบของเครื่องมือวัดได้ภายในระบบ ERP โดยตรง

ระบบสามารถตั้งรอบเวลา แจ้งเตือนล่วงหน้า และเก็บประวัติการสอบเทียบอย่างเป็นระบบ ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นยังอยู่ในช่วงเวลาการใช้งานที่เชื่อถือได้ และไม่มีข้อมูลใดถูกวัดจากอุปกรณ์ที่หมดอายุการสอบเทียบ

  • Track Shelf-life Audit History: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงวันหมดอายุอย่างโปร่งใส

ในอุตสาหกรรมที่อายุการใช้งานของสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ยา อาหาร หรือวัสดุไวต่อเวลา การเปลี่ยนแปลงข้อมูลวันผลิต วันหมดอายุ หรือวันแนะนำการใช้ต้องสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกครั้ง

ระบบสามารถบันทึกชื่อผู้เปลี่ยน เวลาที่แก้ไข และแสดงรายการการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในแต่ละล็อตสินค้า ช่วยลดโอกาสการสับสน และเพิ่มความน่าเชื่อถือในการรายงานคุณภาพสินค้าให้กับลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล

เหตุผลที่องค์กรควรอัปเกรดสู่ D365FO 10.0.44 ยกระดับการจัดการคุณภาพให้เทียบเท่าระดับโลก

ในวันที่ตลาดแข่งขันกันที่ “ความน่าเชื่อถือของสินค้า” มากพอ ๆ กับ “ความเร็วในการส่งมอบ” การมีระบบ ERP ที่รองรับเฉพาะการดำเนินงานพื้นฐานอาจไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่องค์กรต้องการในวันนี้คือ ERP ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างชาญฉลาด ตอบโจทย์ข้อกำหนดของอุตสาหกรรมที่เข้มงวด และสร้างความโปร่งใสในการตรวจสอบแบบ end-to-end

Microsoft Dynamics 365 Finance and Operations เวอร์ชัน 10.0.44 คือก้าวสำคัญในการยกระดับระบบบริหารจัดการคุณภาพ (Quality Management System – QMS) ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างดิจิทัลหลักในองค์กร ไม่ใช่แค่ระบบเสริมที่ทำงานแยกส่วนอีกต่อไป

เริ่มต้นใช้งาน D365FO 10.0.44 อย่างมั่นใจ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Quick ERP

แม้ฟีเจอร์ใหม่ใน Dynamics 365 FO เวอร์ชัน 10.0.44 จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเปิดใช้งานได้ผ่าน Feature Management แต่การนำไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตจริง จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึก ทั้งในมิติของธุรกิจ เทคโนโลยี และการจัดการคุณภาพเฉพาะอุตสาหกรรม

Quick ERP พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยให้องค์กรของคุณเปลี่ยนการอัปเกรดระบบ ERP ให้กลายเป็น “การลงทุนเพื่อยกระดับการควบคุมคุณภาพและความสามารถในการแข่งขัน” อย่างแท้จริง

Quick to Grow, Quick to Know

อัปเดตใหม่ D365 FO 10.0.44 เพิ่มศักยภาพการทำงาน อธิบายละเอียด

เพราะในโลกธุรกิจทุกวันนี้ “การรู้เร็ว” ไม่ใช่แค่ได้เปรียบ แต่คือหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน
กิจกรรม Quicker Knowledge Sharing ประจำเดือนมิถุนายน 2025 จัดขึ้นเพื่อเติมพลังให้ทุกคนด้วยการเรียนรู้ที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมสร้างพื้นที่ให้ทุกทีมได้แชร์มุมมอง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเปิดรับแนวคิดใหม่ที่ช่วยต่อยอดงานในมุมที่ไม่เคยคิดมาก่อน

บทความนี้เรียบเรียงขึ้นจากการแบ่งปันความรู้ของชาว Quicker ในงาน Knowledge Sharing ประจำเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อถ่ายทอดสาระที่น่าสนใจและต่อยอดสู่การพัฒนาการทำงานของทีมอย่างต่อเนื่อง

การเติบโตขององค์กรไม่อาจเกิดขึ้นจากแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการเรียนรู้ร่วมกัน
เมื่อทุกคนมีโอกาส “รู้” มากขึ้น องค์กรก็ “เติบโต” ได้เร็วขึ้น

Quick to Grow, Quick to Know วัฒนธรรมของการทำงานร่วมกันที่เราสร้างขึ้นในทุกเดือน

ก้าวเข้าสู่ Digital Business

ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่

FO Line 1.11 1 80
Dynamics 365 Finance and Operations
Dynamics 365 Finance and Operation ช่วยการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางการเงินด้วย AI สร้างกระบวนการทางการเงินแบบอัตโนมัติและเป็นหนึ่งเดียว ลดค่าใช้จ่ายดำเนินการ
Table of Content