IoT Platform คือ ก้าวสู่ Digital Transformation 4.0 อย่างมั่นใจ

IoT Platform คืออะไร มีความสามารถหรือประโยชน์อย่างไร พร้อมตัวอย่างการใช้ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ IoT ในเชิงพาณิชย์
blog iot cover

IoT Platforms แพลตฟอร์มยุคดิจิทัล

IoT (Internet of Thing) เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากมาย ควบคู่กันกับเรื่อง Industrial 4.0 หรือว่า Thailand 4.0 หลายธุรกิจหลายองค์กรพยายามทำให้องค์กรเป็น Industrial 4.0 ค้นหาหน้าแนวทางต่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า Digital Transformation

แต่การที่จะนำเทคโนโลยี IoT มาใช้งานเพื่อให้องค์กรเป็น Industrial 4.0 ได้อย่างสมบูรณ์แบบและยั่งยืนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลาย ๆ โปรเจคสามารถทำได้ระดับในหนึ่ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จในเชิงของธุระกิจ หรือคุณประโยชน์ที่ได้รับ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน หรือแม้แต่การขยายขนาดของระบบ IoT ไปสู่การใช้งานจริงที่มีจำนวน Things มาก ๆ นั้นไม่สามารถทำได้ ติดขัดข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง เช่น เรื่องของการใช้ Platform เพื่อเชื่อมต่อกับ Software platform อื่น ๆ ได้อย่างไม่สะดวกมากนัก ต้องใช้โปรแกรมเมอร์ ที่มีความสามารถสูงเฉพาะด้านมาพัฒนา แต่ก็ยังตามมาด้วยปัญหา(Bug) ที่หลากหลาย รวมไปถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลที่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีไม่มีรั่วไหล เรามาทำความรู้จัก IoT Platforms ที่จะมาแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

IoT Platforms คืออะไร

IoT Platform คือ แพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ IoT ในเชิงพาณิชย์ เช่น ผู้ผลิตอุปกรณ์ IoT, โรงงานอุตสาหกรรม และองค์กรที่พัฒนาสู่ยุค Digital Transformation 4.0 ซึ่งจะช่วยพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) โดยแพลตฟอร์มจะช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถสื่อสารกันได้ เกิดการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานทราบถึงข้อมูลของอุปกรณ์ ณ เวลานั้น ๆ ไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ที่ไหนเวลาใดก็ตาม ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ได้จำนวนมากในระบบและเวลาเดียว ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ที่มีอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก ๆ ได้เป็นอย่างดี

เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในแบบมาตรฐานที่สูงสุด สำหรับระบบ IoT ใช้ที่งานเครื่องจักร และอุปกรณ์ IoT ที่มีหลากหลายแบรนด์ร่วมกัน จะมีการเข้ารหัสข้อมูลในรูปแบบมาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ในทุก ๆ จุด ทำให้ลดข้อกังวลด้านความปลอดภัยด้านข้อมูลของผู้ใช้ IoT Platform ได้เป็นอย่างดี ทำให้เรื่องของการทำ Digital Transformation ประสบความสำเร็จได้ง่ายดาย, รวดเร็ว และปลอดภัย

blog iot 1

IoT vs IIoT ต่างกันอย่างไร?

ทั้ง IoT (Internet of Things) และ IIoT (Industrial Internet of Things) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อพูดถึงการใช้งานในอุตสาหกรรม ทั้งสองมีบทบาทและเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อความซับซ้อนของระบบและผลลัพธ์ที่ได้รับ

  • IoT ในอุตสาหกรรม

IoT ในอุตสาหกรรมหมายถึงการนำเทคโนโลยี IoT ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป มาใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรมบางส่วน โดยเน้นไปที่งานง่าย ๆ หรือเฉพาะเจาะจง เช่น

    • การติดตามสินค้า
      ใช้เซ็นเซอร์ RFID หรือ GPS เพื่อติดตามสถานะสินค้าในระหว่างการขนส่ง เช่น การตรวจสอบว่าพัสดุถึงปลายทางตามเวลาหรือไม่
    • ระบบแจ้งเตือนในโกดังสินค้า
      ติดตั้ง IoT Sensor เพื่อตรวจจับระดับวัตถุดิบหรือสินค้าในคลังสินค้า และแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงคลังต่ำกว่าระดับที่กำหนด
    • อุปกรณ์เชื่อมต่อทั่วไป
      เช่น ระบบล็อคประตูในสำนักงาน หรือเครื่องตรวจจับการเคลื่อนไหวในโรงงาน ซึ่งเป็นการประยุกต์ IoT ในการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย
  • IIoT ในอุตสาหกรรม

IIoT เป็นการยกระดับ IoT ไปอีกขั้นสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำสูง เช่น โรงงานผลิต โรงไฟฟ้า หรือระบบขนส่งขนาดใหญ่ มันไม่ได้เป็นเพียงการติดตั้งเซ็นเซอร์ แต่รวมถึงการบูรณาการข้อมูลกับระบบต่าง ๆ เช่น ERP (Enterprise Resource Planning), MES (Manufacturing Execution System) และ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญ เช่น

    • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
      IIoT ช่วยให้สามารถติดตามการทำงานของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ เช่น การตรวจสอบว่าเครื่องจักรในสายการผลิตทำงานเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ หากพบข้อผิดพลาด ระบบสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานอัตโนมัติได้ทันที
    • การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance)
      แทนที่จะซ่อมบำรุงเมื่อเครื่องจักรเสีย IIoT ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบลักษณะการสึกหรอ และแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าเครื่องจักรใดต้องการซ่อม ลดเวลา Downtime และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
    • การจัดการพลังงาน
      IIoT ช่วยลดต้นทุนพลังงานโดยการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานในโรงงาน เช่น การควบคุมให้เครื่องจักรทำงานในช่วงเวลาที่พลังงานมีต้นทุนต่ำ

    • การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management)
      IIoT ช่วยติดตามสถานะสินค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งมอบ เช่น การตรวจสอบว่าการขนส่งสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่

Quick Suggest

หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ

ความสามารถของ IoT Platform ที่ควรต้องมี

  • Connect

    สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก ๆ ได้ ในระบบและเวลาเดียวกัน และแอปพลิเคชันที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้หลายแหล่ง สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบ ยืนยันตัวตนอุปกรณ์ด้วยระบบ Token สื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ หรืออุปกรณ์กับคลาวด์แบบเรียลไทม์ รองรับระบบเน็ตเวิร์คทั้งแบบ LAN, Wifi, 3G, NB-IoT และ LoRaWAN

  • Build

    มีตัวช่วยสร้าง User Interface ที่ใช้งานง่ายและสวยงาม พร้อมการแสดงผลแบบเรียลไทม์ที่จะสร้างโซลูชัน IoT ที่สมบูรณ์แบบ และสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานใช้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย มี Dashboard สำหรับแสดงข้อมูลและควบคุมสั่งการอุปกรณ์ได้ รวมถึงมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการโฟลว์การทำงานของอุปกรณ์ที่สามารถตั้งค่าเองได้

  • Analyze

    สามารถวิเคราะห์ข้อมูล IoT ที่ซับซ้อนแบบเรียลไทม์ด้วยฟังก์ชันการคาดการณ์และการให้คำแนะนำ มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่หลากหลาย ได้แก่ ข้อมูล Configuration ของอุปกรณ์และเซนเซอร์ ที่สามารถออกแบบเองได้ในรูปแบบ JSON, การประมวลข้อมูลเบื้องต้นก่อนบันทึก (เช่น การแปลงหน่วยข้อมูล) และการเก็บข้อมูลในรูปแบบ Time Series

  • Manage

    ช่วยจัดการอุปกรณ์ IoT, Data และผู้ใช้งาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงกระบวนการและภาพรวมของระบบทั้งหมด การส่งต่อข้อมูลไปยัง Platform อื่นได้ เช่น สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนตามเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล แอปพลิเคชันไลน์ หรือเว็บแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้

  • Experiencet

    สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้รับ ความรวดเร็วและสะดวกที่สุด ในการใช้งานทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Web Application, Mobile Application และ Smart Device ต่าง ๆ

ส่วนของการนำเสนอข้อมูลนอกจากการแสดงผลในแบบมาตรฐานที่เป็นรูปแบบของ WEB Application ที่ใช้งานผ่าน Web Brower ที่ใช้ได้ในหลากหลายระบบปฏิบัติการ (Operating System) และหลากหลาย Device แล้วนั้น ยังต้องคำนึงถึงการรองรับระบบการแสดงผลในแบบ Visual Reality(VR), Augmented Reality(AR) และ Mix Reality (MR) ที่เป็นเทคโนโลยีสำหรับโลกเสมือนจริง Metaverse ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ด้วย

blog iot 2

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้ IoT Platform

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพ

    IoT Platform ช่วยในการติดตามและวัดปริมาณการใช้พลังงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพของลูกค้า

    IoT Platform ช่วยในการให้บริการลูกค้าโดยการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

  • การเพิ่มปริมาณการใช้งาน

    IoT Platform ช่วยในการเพิ่มปริมาณการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ

  • การวิเคราะห์ข้อมูล

    IoT Platform ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย

  • การปรับปรุงความปลอดภัย

    IoT Platform ช่วยในการปรับปรุงความปลอดภัยโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลจากผู้ไม่ได้รับอนุญาต

  • การเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่

    IoT Platform ช่วยในการเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่โดยใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อเพื่อเสริมปริมาณการใช้งานและเพิ่มปริมาณการใช้งาน

  • การจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    IoT Platform ช่วยในการจัดการและบริหารจัดการอุปกรณ์เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปัญหาและความผิดพลาดในการทำงาน

  • การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์

    IoT Platform ช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์และระบบเพื่อให้ข้อมูลสามารถถ่ายโอนไปยังระบบอื่นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน

    IoT Platform ช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีและข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ และช่วยในการลดความผิดพลาดและปัญหาในการทำงาน ส่วนประสิทธิภาพในการจัดการและบริหารจัดการอุปกรณ์ สามารถเพิ่มปริมาณการใช้งานและประหยัดเวลาในการทำงาน

  • การตรวจสอบสถานะอุปกรณ์

    IoT Platform ช่วยในการตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจในการปรับปรุงปริมาณการใช้งานของอุปกรณ์ และจัดการอุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัยและประหยัดเวลา

blog iot 3

ตัวอย่าง IoT Platform

IoT Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการจัดการและเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูล ประมวลผลและแจ้งเตือนได้ มีตัวอย่าง IoT ดังต่อไปนี้

  • Thingworx Platform

    – เป็น IoT Platform ที่เหมาะสำหรับงานวิศวกรรม และงานออกแบบอุปกรณ์ IoT
    – มีคุณสมบัติการจัดการข้อมูลแบบ Real-time และสามารถเข้าถึงข้อมูลจากหลายแหล่งได้
    – มี Visualization และ Analytics ให้เลือกใช้
    – สามารถเขียนโปรแกรมได้ด้วยภาษา Java และ C#

  • Azure IoT Central

    – เป็น IoT Platform ของ Microsoft ที่มีคุณสมบัติในการจัดการข้อมูลแบบ Cloud-based
    – มีการจัดการข้อมูลแบบ Real-time และสามารถเข้าถึงข้อมูลจากหลายแหล่งได้
    – คุณสมบัติในการจัดการและเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ผ่านทาง Cloud และเป็นแพลตฟอร์มครอบคลุมทั้งหมด
    – มี Visualization และ Analytics ให้เลือกใช้ และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านทาง Mobile application และ Web-based
    – สามารถเขียนโปรแกรมได้ด้วยภาษา C#, Python และ Java

ในมุมของการแข่งขันทางธุรกิจ องค์กรที่ไม่ได้กำหนดกลยุทธ์ด้าน IoT เสี่ยงต่อการแข่งขันที่เสียเปรียบ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งขัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ณ เวลานี้คือ “ลงมือทำเลยตอนนี้หรือจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”

blog iot 4

แนวโน้ม IoT ในอนาคต

  • 1. การเชื่อมต่อ 5G

เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้ IoT รองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้นด้วยการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วและลดความหน่วง ตัวอย่างเช่น

    • รถยนต์ไร้คนขับที่สื่อสารกันแบบเรียลไทม์
    • เมืองอัจฉริยะที่เชื่อมโยงระบบทุกอย่างเข้าด้วยกัน
  • 2. การประมวลผลที่ขอบเครือข่าย (Edge Computing)

Edge Computing ช่วยลดเวลาการประมวลผลและเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการตอบสนองทันที เช่น

    • การผลิตในโรงงานที่ต้องปรับปรุงการตั้งค่าเครื่องจักรในเสี้ยววินาที
    • ระบบรักษาความปลอดภัยที่วิเคราะห์ข้อมูลในพื้นที่ทันท
  • 3. การรวม IoT กับ AI (AIoT)

AI ช่วยเพิ่มความสามารถของ IoT ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างเช่น

    • การบำรุงรักษาเครื่องจักรแบบคาดการณ์ล่วงหน้า
    • การประมวลผลข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
  • 4. ดิจิทัลทวิน (Digital Twins)

การจำลองแบบเสมือนช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ได้ก่อนดำเนินการจริง ตัวอย่างเช่น

    • การสร้างแบบจำลองสายการผลิตเพื่อทดลองประสิทธิภาพ
    • การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของเมืองแบบเรียลไทม์

ก้าวเข้าสู่ Industry 4.0

ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่

Table of Content