ก้าวสู่อนาคตของธุรกิจด้วย ERP ที่รองรับ Subscription Economy และ ESG Compliance
ธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทั้งการเปลี่ยนจากการขายแบบดั้งเดิมไปสู่ Subscription Model และการปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งส่งผลต่อทั้งโครงสร้างรายได้และแนวทางการดำเนินงานขององค์กร
Microsoft Dynamics 365 Business Central (D365 BC) เวอร์ชัน 25.3 ได้รับการพัฒนาให้รองรับการบริหาร Subscription Services ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้องค์กรสามารถ ติดตามและบริหารการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Emission) ได้อย่างเป็นระบบ การอัปเดตใหม่นี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการรายได้จากค่าบริการ รวมถึงการบริหารทรัพยากรและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น
Quick Suggest
หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ
การบริหาร Subscription ด้วย D365 BC V25.3
1. Subscription Economy และความสำคัญของการบริหารค่าบริการ
Subscription Economy คือแนวโน้มทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนจากโมเดลการขายแบบดั้งเดิมที่ทำธุรกรรมเพียงครั้งเดียว ไปสู่รูปแบบ Recurring Revenue ที่สร้างกระแสรายได้อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่ให้บริการแบบสมัครสมาชิก เช่น ซอฟต์แวร์ SaaS, บริการสตรีมมิ่ง, การเช่าอุปกรณ์ หรือบริการหลังการขาย จำเป็นต้องมีระบบที่ช่วยให้สามารถติดตามและบริหารค่าบริการได้อย่างแม่นยำ
2. Service Commitment Package และการบริหารข้อตกลงการให้บริการ
ในเวอร์ชัน 25.3 D365 BC ได้เพิ่มฟีเจอร์ Service Commitment Package เพื่อให้ธุรกิจสามารถกำหนดเงื่อนไขค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าได้สะดวกขึ้น ระบบสามารถ
- เปิดใบสั่งขาย (Sales Order) ที่มี Commitment ติดมาพร้อมกันโดยอัตโนมัติ
- ตรวจสอบรายละเอียด Commitment ได้โดยตรงจาก Sales Order
- บริหารเงื่อนไขการสมัครสมาชิกได้ แม้ไม่มีการตั้งค่าล่วงหน้า (Sales Commitments without Contract)
3. Recuring Billing: ระบบการเรียกเก็บค่าบริการอัตโนมัติ
ธุรกิจ Subscription จำเป็นต้องมีระบบที่สามารถสร้างใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ เพื่อให้สามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ตรงเวลา D365 BC V25.3 รองรับการคำนวณ Commitment และออก Sales Invoice ได้โดยอัตโนมัติ โดยมีการทำงานดังนี้
ระบบจะคำนวณค่าบริการที่ต้องเรียกเก็บตามเงื่อนไขที่กำหนด
สามารถออกใบแจ้งหนี้ได้ทั้งแบบรายเดือน รายปี หรือเงื่อนไขพิเศษที่กำหนดเอง
ลดความผิดพลาดในการเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้า
4. การบริหารข้อมูล Subscription ด้วย Pivot Table
ในเวอร์ชันใหม่นี้ D365 BC ได้เพิ่มฟีเจอร์ Pivot Table เพื่อให้ธุรกิจสามารถติดตามค่าบริการ Subscription ได้อย่างแม่นยำขึ้น ธุรกิจสามารถใช้ Pivot Table เพื่อตรวจสอบรายละเอียดค่าบริการที่เกิดขึ้นกับลูกค้าแต่ละรายได้ ช่วยให้สามารถ
วิเคราะห์แนวโน้มของลูกค้า
วางแผนกลยุทธ์การสมัครสมาชิก
ปรับปรุงรูปแบบค่าบริการให้เหมาะสม
การบริหารความยั่งยืนและคาร์บอนเครดิต
การบันทึก Emission และการกำหนดเป้าหมายความยั่งยืน
D365 BC V25.3 ช่วยให้สามารถบันทึกค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านหน้าจอ Journal ได้โดยตรง ระบบรองรับการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนผ่าน Sustainability Setup ซึ่งรวมถึง
- การตั้งค่า Sustainability Goal
- การติดตามผลผ่าน Sustainability Scorecard
- การบริหารบัญชีด้านความยั่งยืนผ่าน Sustainability Account Categories
ระบบยังรองรับการตรวจสอบประวัติการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่าน Sustainability Ledger Entries ทำให้สามารถติดตามข้อมูลย้อนหลังและนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหาร Carbon Credit และการซื้อขายเครดิตคาร์บอน
Dynamics 365 Business Central V25.3 รองรับการซื้อขาย Carbon Credit ทั้งในรูปแบบ Mandatory Carbon Credit และ Voluntary Carbon Credit
- Mandatory Carbon Credit เป็นระบบที่ใช้ในตลาดการค้าคาร์บอนเครดิตที่ถูกบังคับใช้โดยภาครัฐ ธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกินโควต้าต้องซื้อเครดิตเพิ่มจากบริษัทที่มีเครดิตเหลืออยู่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงค่าปรับ
- Voluntary Carbon Credit เป็นเครดิตที่ใช้ในตลาดการค้าคาร์บอนเครดิตที่ไม่ได้ถูกบังคับใช้ แต่ธุรกิจสามารถเข้าร่วมเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีและช่วยให้สามารถลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว
หนึ่งคาร์บอนเครดิตเทียบเท่ากับการลดการปล่อย CO2e หนึ่งตัน ก๊าซที่อยู่ในขอบเขตการบริหารคาร์บอนเครดิตรวมถึง CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์) N2O (ไนตรัสออกไซด์) และ CH4 (มีเทน)
การแบ่ง Scope ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emissions Scopes)
องค์กรที่ต้องการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความยั่งยืน เช่น GHG Protocol, ISO 14064, และมาตรฐาน ESG จำเป็นต้องติดตาม Greenhouse Gas Emissions (GHG Emissions) อย่างเป็นระบบเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแบ่ง Scope ของการปล่อยก๊าซช่วยให้สามารถวิเคราะห์แหล่งที่มาของก๊าซเรือนกระจก กำหนดกลยุทธ์ลดการปล่อยก๊าซ และติดตามผลกระทบขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Scope 1: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง (Direct Emissions)
Scope 1 ครอบคลุมการปล่อยก๊าซที่เกิดขึ้นจากกระบวนการภายในองค์กรโดยตรง เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงในโรงงาน การใช้สารทำความเย็น และการปล่อยไอเสียจากกระบวนการผลิต องค์กรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองจำเป็นต้องบริหาร Scope 1 อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
Scope 2: การปล่อยก๊าซจากพลังงานที่องค์กรซื้อมา (Indirect Emissions from Purchased Energy)
Scope 2 ครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากพลังงานที่องค์กรซื้อจากภายนอก เช่น ไฟฟ้าและความร้อน แม้ว่าธุรกิจจะไม่ได้ปล่อยก๊าซโดยตรง แต่พลังงานที่ซื้อมาอาจมาจากแหล่งที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานหมุนเวียนหรือการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลด Scope 2
Scope 3: การปล่อยก๊าซจากกิจกรรมทางอ้อม (Other Indirect Emissions)
Scope 3 เป็น Scope ที่ซับซ้อนที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่องค์กรไม่ได้ควบคุมโดยตรง เช่น การขนส่งสินค้า กระบวนการผลิตของซัพพลายเออร์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า องค์กรที่ต้องการลด Scope 3 ต้องมีนโยบายด้านซัพพลายเชนที่เข้มงวดและเลือกพันธมิตรที่มีแนวทางการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ระบบรายงานด้านความยั่งยืน (Sustainability Reporting) ใน D365 BC V25.3
ธุรกิจที่ต้องการดำเนินงานอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องมี ระบบติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ และสามารถปรับปรุงการดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG Microsoft D365 BC V25.3 มีเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อมูลและออกรายงานด้านความยั่งยืนได้ง่ายขึ้น
ประเภทของรายงานด้านความยั่งยืนที่สามารถใช้งานได้
รายงานการปล่อยก๊าซ (Total Emission Report)
ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยออกมาในช่วงเวลาต่างๆ โดยเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
รายงานการปล่อยก๊าซตามสถานที่ (Permission Per Facility)
ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ว่าโรงงานหรือสาขาใดมีการปล่อยก๊าซสูงที่สุด เพื่อให้สามารถกำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซได้ตรงจุด
รายงานการปล่อยก๊าซตามหมวดหมู่ (Permission By Category)
แสดงการปล่อยก๊าซที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ เช่น กระบวนการผลิต การขนส่ง และการใช้พลังงาน ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทกิจกรรม
รายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Carbon Credit (Financial Report)
ใช้สำหรับติดตามต้นทุนของการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และวิเคราะห์ว่าองค์กรสามารถลดต้นทุนได้จากการลดการปล่อยก๊าซหรือไม่
Microsoft Dynamics 365 Business Central V25.3 ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
D365 BC V25.3 ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหาร Subscription Services ได้อย่างแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บค่าบริการ และสามารถติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบ
การบริหาร Subscription ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารค่าใช้จ่ายและรายรับจากค่าบริการได้อย่างแม่นยำ ส่วนการบริหาร Sustainability ทำให้องค์กรสามารถวางแผนด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน และปฏิบัติตามมาตรฐานด้าน ESG
Quick ERP ในฐานะ Microsoft Partner พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนการใช้งาน D365 BC V25.3 เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถ ลดต้นทุน ปรับปรุงกระบวนการ และเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ก้าวเข้าสู่ Digital Business
ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่