ESG คืออะไร? มาตรฐานใหม่องค์กรที่รอดในปี 2026

ESG คือมาตรฐานใหม่ที่ธุรกิจไทยต้องเข้าใจภายในปี 2026 หากไม่อยากถูกลดเครดิตจากนักลงทุนและพลาดโอกาสในตลาดโลก
ESG คืออะไร? มาตรฐานใหม่องค์กรที่รอดในปี 2026

ทำไมปี 2026 คือจุดเปลี่ยนของธุรกิจไทย?

ในโลกที่เศรษฐกิจสั่นไหวไม่หยุด เงินทุนไหลออกจากประเทศกำลังพัฒนา สินค้าหลายกลุ่มถูกกีดกันเพราะ “ไม่มีใบรับรอง ESG” และผู้บริโภคเริ่มตั้งคำถามว่า

“เราควรสนับสนุนธุรกิจแบบไหน?”

นี่คือ จุดเปลี่ยนของระบบธุรกิจทั้งระบบ ที่ไม่เข้าใจก็มีแนวโน้มจะ “ร่วง” แบบไม่รู้ตัว

ในปี 2026 ความท้าทายของธุรกิจไม่ได้มีแค่เงินเฟ้อ หรือค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น แต่มาจาก “ความคาดหวังใหม่” ที่ใหญ่กว่าเดิม

องค์กรต้องรับผิดชอบต่อโลก ต่อคน และต่อระบบที่มันดำเนินอยู่ ไม่ใช่แค่หากำไรให้ได้เร็วที่สุด

และสิ่งที่ทำให้องค์กร “อยู่รอดได้จริง” ในระยะยาว ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ด้านราคา หรือแคมเปญการตลาดที่ฉาบฉวย แต่คือสิ่งที่เรียกว่า “ESG” เครื่องมือที่กำลังกลายเป็น “ภาษากลางของโลกธุรกิจยุคใหม่” และเป็นมาตรฐานใหม่ของ “องค์กรที่น่าเชื่อถือที่สุดในสายตานักลงทุนและผู้บริโภค”

บางบริษัทไทยเริ่มถูกลดเครดิตจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะขาดแผนด้าน ESG บางบริษัทกลับ “ดึงดูดเงินทุน” และ “เจาะตลาดใหม่ได้ทั่วโลก” เพราะมี ESG Score ที่ดี ความต่างอยู่ตรงนี้เอง

  • “ESG คืออะไร?”
  • แต่คือ “ESG จะกำหนดอนาคตธุรกิจคุณได้อย่างไร” พร้อมทั้งตัวอย่าง การวิเคราะห์ และคำตอบที่ชัดเจน ว่า ทำไม “องค์กรที่ไม่มี ESG” อาจไม่เหลือที่ยืนในอนาคตอันใกล้
ESG กำลังเป็นเรื่องยากของคุณ
ปรึกษาทีม Quick ERP เราจะทำให้ทุกอย่างง่ายและมั่นใจได้!

ESG คืออะไร ย่อมาจากอะไร ทิศทาง ก.ล.ต.

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “ESG” เริ่มปรากฏอยู่ในรายงานของบริษัทใหญ่ ๆ การประชุมผู้ถือหุ้น ไปจนถึงเงื่อนไขของธนาคารและนักลงทุนระดับโลก แต่คำถามคือ… ESG คืออะไร? และเกี่ยวอะไรกับการทำธุรกิจ?

ESG ย่อมาจากอะไร?

คำว่า ESG ย่อมาจาก Environmental (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม), และ Governance (ธรรมาภิบาล) ซึ่งเป็น กรอบแนวคิด ที่องค์กรทั่วโลกใช้ในการวัด “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางการเงิน แต่รวมถึงความรับผิดชอบต่อโลกและสังคมที่องค์กรนั้นดำเนินอยู่ด้วย

  • Environmental (สิ่งแวดล้อม): ธุรกิจจัดการปัญหาโลกร้อนอย่างไร? ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือยัง? มีแผนใช้พลังงานสะอาดหรือไม่?
  • Social (สังคม): ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรมไหม? เคารพสิทธิมนุษยชนหรือไม่? มีความปลอดภัยในการทำงานหรือไม่?
  • Governance (ธรรมาภิบาล): บริหารจัดการอย่างโปร่งใสแค่ไหน? มีคณะกรรมการอิสระ? มีการตรวจสอบภายใน? ป้องกันการทุจริตหรือเปล่า?

ESG คือกระจกที่ “สะท้อนการกระทำของธุรกิจ” ว่าดำเนินกิจการอย่างมีความรับผิดชอบหรือยัง ซึ่งไม่ใช่แค่ทำกำไร แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวด้วย

ESG กับธุรกิจไทย?

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เพิ่มช่องทางและอำนวยความสะดวกให้บริษัทจดทะเบียนในการสื่อสารข้อมูลด้านความยั่งยืน (ESG) กับผู้มีส่วนได้เสีย โดยจัดทำ แนวทางการเปิดเผยข้อมูล ESG อย่างเป็นระบบ ผ่านรายงานที่เรียกว่า 56-1 One Report

รายงาน One Report คือการรวมข้อมูล ด้านการเงิน และ ด้านความยั่งยืน (ESG) ไว้ในเอกสารเดียว เพื่อให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห็นภาพรวมขององค์กร ทั้งในมิติของผลประกอบการและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ก.ล.ต. ได้แนะนำให้บริษัทจัดทำ รายงาน 56-1 One Report โดยบูรณาการข้อมูล ESG เข้าไปในการรายงานผลการดำเนินงานขององค์กร

ESG Risks คืออะไร?

ESG Risks หรือ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล คือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม (Environmental), สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ชื่อเสียง ความสามารถในการแข่งขัน และมูลค่าขององค์กรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ความสำคัญ ESG Risks

ในอดีต ESG อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องรอง แต่วันนี้บริบทเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งจากแรงกดดันของนักลงทุน ผู้บริโภค สังคม และหน่วยงานกำกับดูแล ทุกฝ่ายล้วนให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้น และใช้เป็นปัจจัยตัดสินใจลงทุนหรือจับมือทางธุรกิจ

กล่าวอีกอย่างคือ ถ้าบริษัทไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยง ESG ได้ดีพอ ก็อาจถูกตัดออกจากโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดโลก

ประเภทของ ESG Risks

  • ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Risks)

เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่องค์กรมีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่อธุรกิจ เช่น

    • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: หากไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาจต้องเผชิญมาตรการควบคุม เช่น ภาษีคาร์บอน หรือข้อจำกัดทางการค้า
    • ภัยธรรมชาติ: อุทกภัย ภัยแล้ง หรือพายุรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและซัพพลายเชน
    • การใช้ทรัพยากรอย่างไม่มีประสิทธิภาพ: เช่น การใช้น้ำหรือพลังงานมากเกินจำเป็น จนเกิดต้นทุนแฝงในอนาคต
    • การจัดการของเสียและมลพิษ: หากขาดระบบควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่คดีความ ค่าปรับ และการสูญเสียความเชื่อมั่น
  • ความเสี่ยงด้านสังคม (Social Risks)

เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น พนักงาน ลูกค้า ชุมชน โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัย และความเท่าเทียม เช่น

    • การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างไม่เป็นธรรม

    • การขาดมาตรการด้านความปลอดภัยในการทำงาน

    • การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

    • ความขัดแย้งกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของบริษัท

  • ความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาล (Governance Risks)

เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการองค์กร ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ เช่น

    • การทุจริต คอร์รัปชัน การให้หรือรับสินบน

    • ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในหมู่ผู้บริหาร

    • โครงสร้างบอร์ดที่ไม่หลากหลาย หรือไม่มีอิสระเพียงพอ

    • การปกปิดข้อมูลสำคัญจากนักลงทุนหรือหน่วยงานกำกับดูแล

การจัดการ ESG Risks

องค์กรที่ต้องการอยู่รอดในระยะยาวต้องจัดการความเสี่ยง ESG อย่างเป็นระบบ โดยทั่วไปควรดำเนินการใน 4 ขั้นตอน:

  • การระบุความเสี่ยง: ทำความเข้าใจว่ากิจกรรมขององค์กรอาจสร้างความเสี่ยงในด้านใดบ้าง
  • การประเมินความรุนแรงและโอกาสที่จะเกิด: วิเคราะห์ระดับความเสี่ยงในแต่ละด้าน
  • การกำหนดแนวทางรับมือ: พัฒนาแผนป้องกันหรือลดความเสี่ยงให้เหมาะสมกับบริบทของธุรกิจ
  • การติดตามและรายงาน: สร้างระบบติดตามผลและเปิดเผยความคืบหน้าต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ESG Rating คืออะไร? ใช้วัดจากอะไร?

หลังจากที่เราได้เข้าใจว่า ESG Risks คือปัจจัยเสี่ยงที่องค์กรต้องรับมือให้ทัน เพื่อความมั่นคงในระยะยาว อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ใช้ประเมินว่าองค์กร “รับมือได้ดีแค่ไหน” ก็คือ ESG Rating

ESG Rating คืออะไร?

ESG Rating คือ “คะแนน” ที่สะท้อนระดับความสามารถขององค์กรในการจัดการประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งแสดงถึงความยั่งยืน ความโปร่งใส และศักยภาพในการบริหารความเสี่ยง ESG

ESG Rating ช่วยตอบคำถามว่า “บริษัทนี้มีแนวโน้มจะอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่?”

ใครเป็นผู้ให้ ESG Rating?

มีหลายองค์กรทั้งในระดับโลกและในประเทศไทยที่ทำหน้าที่ให้คะแนน ESG แก่บริษัท เช่น

  • MSCI ESG Ratings
  • Sustainalytics
  • FTSE Russell
  • SET ESG Ratings โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หน่วยงานเหล่านี้ใช้เกณฑ์ที่ครอบคลุม ปรับตามอุตสาหกรรม และอิงกับข้อมูลจริงจากรายงาน 56-1 One Report, Sustainability Report, รวมถึงการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ESG Rating วัดจากอะไร?

ESG Rating ไม่ได้วัดแค่ “เจตนา” แต่เน้นที่ “ระบบ ความต่อเนื่อง และผลลัพธ์” โดยทั่วไปจะพิจารณา 3 มิติหลัก

  • Environmental (E)

    • การจัดการพลังงานและทรัพยากร
    • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG)
    • ความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ระบบจัดการของเสียและน้ำ
  • Social (S)

    • สิทธิมนุษยชนและแรงงาน

    • ความเท่าเทียมและความหลากหลาย (Diversity & Inclusion)

    • ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

    • ความสัมพันธ์กับชุมชน และผลกระทบทางสังคม

  • Governance (G)

    • โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการ

    • ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล

    • การบริหารจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์

    • ระบบควบคุมภายในและจริยธรรมทางธุรกิจ

ESG Rating ดี มีผลอย่างไร?

คะแนน ESG ที่ดี ไม่ได้เป็นแค่ “รางวัลเชิงภาพลักษณ์” แต่นำไปสู่ “ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์” ที่สำคัญ เช่น

  • ดึงดูดนักลงทุนสถาบัน: นักลงทุนที่เน้นลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) มักใช้ ESG Rating เป็นเกณฑ์หลักในการตัดสินใจ
  • ต้นทุนเงินทุนต่ำลง: บริษัทที่บริหารความเสี่ยง ESG ได้ดี อาจได้รับเครดิตเรตติ้งที่สูงขึ้น กู้เงินง่ายขึ้น ดอกเบี้ยน้อยลง
  • สร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้า-คู่ค้า: ยิ่งตลาดโลกให้ความสำคัญกับ ESG มากเท่าไร ความน่าเชื่อถือขององค์กรก็ยิ่งสำคัญ
  • เตรียมพร้อมรับมือกฎหมายและกฎระเบียบ: โดยเฉพาะในประเทศที่มีมาตรการเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน

ESG กับความยั่งยืน (Sustainability) ต่างกันอย่างไร?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้ยินคำว่า “ESG” และ “Sustainability” ถูกใช้ควบคู่กันบ่อยมากในบริบทของธุรกิจ การลงทุน และการวางนโยบายระดับประเทศ

แต่หากแยกความหมายอย่างชัดเจนให้เห็นภาพ คือ

ESG คือ เส้นทาง / ระบบนำทาง (GPS)
Sustainability คือ จุดหมายปลายทาง

ความยั่งยืนคืออะไร?

คำว่า “ความยั่งยืน” (Sustainability) มีรากฐานจากการพัฒนาแบบที่ตอบสนองความต้องการของปัจจุบัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของคนรุ่นหลังในการตอบสนองความต้องการของตัวเอง (อ้างอิงจากคำจำกัดความของสหประชาชาติ)

ในเชิงธุรกิจ ความยั่งยืนหมายถึงการดำเนินกิจการที่

  • รักษาสมดุลระหว่างผลกำไร (Profit), สังคม (People) และสิ่งแวดล้อม (Planet)
  • สามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องแลกกับความเสื่อมโทรมของทรัพยากรหรือความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ESG ทำหน้าที่อะไร?

ESG ทำหน้าที่เป็น “กลไกประเมินและบริหาร” ความยั่งยืนในระดับองค์กร

Q: องค์กรจะไปให้ถึงเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างไร?
A: ต้องมีระบบที่ชัดเจนในการวัด ติดตาม และปรับปรุงการดำเนินงาน ซึ่ง ESG ช่วยวางโครงสร้างทั้งหมดในเรื่องนี้

ตัวอย่างการเชื่อมโยง ESG กับเป้าหมายความยั่งยืน

เป้าหมายด้านความยั่งยืน ตัวอย่างตัวชี้วัด ESG
ลดคาร์บอนในองค์กร รายงาน GHG Emissions (Scope 1, 2, 3)
สร้างองค์กรที่เท่าเทียม Diversity Index, Gender Pay Gap
เสริมความโปร่งใสในการบริหาร การเปิดเผยข้อมูลใน 56-1 One Report
สร้างความไว้วางใจระยะยาว ESG Rating จากสถาบันภายนอก

ESG vs Sustainability ต่างกันอย่างไร?

หัวข้อ ESG Sustainability
ความหมาย ชุดเกณฑ์ที่ใช้วัดและบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เป้าหมายระยะยาวของการดำเนินธุรกิจที่ไม่สร้างภาระให้อนาคต
หน้าที่ เครื่องมือเพื่อบรรลุความยั่งยืน วิสัยทัศน์ที่องค์กรต้องการไปให้ถึง
ลักษณะ วัดผลได้ มีตัวชี้วัดชัดเจน แนวคิดกว้างที่ต้องแปลงสู่การปฏิบัติ
ตัวอย่างในองค์กร รายงาน 56-1 One Report, ESG Rating, GHG Reporting เป้าหมาย Net Zero, สร้างองค์กรโปร่งใส มีความหลากหลาย

เมื่อ ESG คือกลไกที่นำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายความยั่งยืน คำถามสำคัญที่ตามมาคือ

“เราจะรู้ได้อย่างไรว่า องค์กรไหน ‘น่าเชื่อถือ’ จริงในสายตานักลงทุนและผู้บริโภค?”

Quick Carbon R ระบบ โปรแกรม ESG คำตอบองค์กรยั่งยืน

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า องค์กรไหน ‘น่าเชื่อถือ’ จริงในสายตานักลงทุนและผู้บริโภค?
คำตอบคือ: องค์กรที่ไม่ได้แค่ “พูดเรื่อง ESG” แต่สามารถ “ลงมือทำจริง วัดผลได้ และสื่อสารได้อย่างโปร่งใส”

จาก Data → Insight → Action

สุดท้ายแล้ว ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ “รายงานตัวเลขให้ครบ” แต่คือการเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจให้แม่นยำขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น และ “สื่อสารได้อย่างโปร่งใส” ทั้งภายในและภายนอกองค์กร

Quick Carbon R ไม่ได้หยุดอยู่แค่การช่วยรายงานข้อมูล ESG แต่มุ่งสร้างระบบข้อมูลที่ “คิดเป็น เห็นภาพ และแนะนำแนวทาง” เพื่อให้องค์กรก้าวสู่อนาคตอย่างมีเป้าหมายและรับผิดชอบ

ก้าวเข้าสู่ Digital Business

ดูผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่

Carbon R Line 1.11 1
Quick Carbon R: โซลูชันจัดการคาร์บอนสู่มาตรฐาน ESG
Table of Content